EXIM BANK ออกมาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุน ให้กู้ยาว 7 ปี



  • หนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่
  • ใจดีให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปี
  • วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 เงินบาทแข็งค่าราว 7% ขณะที่มูลค่าส่งออกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาขยายตัวเฉลี่ย 1.8% ลดลงอย่างมากจากที่เคยขยายตัวสูง ประกอบกับเศรษฐกิจไทยเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัว EXIM BANK จึงร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ออก “มาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต” เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากสภาวะเงินบาทแข็งค่า ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต โดยนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ในต้นทุนที่ต่ำลง นำไปสู่การพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น แข่งขันได้ในตลาดการค้าโลกยุคใหม่

สำหรับมาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นสินเชื่อระยะยาวสำหรับผู้ประกอบการทุกกลุ่มอุตสาหกรรม วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 2% ต่อปีในปีที่ 1-2 ส่วนปีที่ 3-5 อยู่ที่อัตราดอกเบี้ย -2.00% และปีที่ 6-7 อยู่ที่อัตราดอกเบี้ย 6.00% ระยะเวลาชำระคืนสูงสุด 7 ปี รวมระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย (Grace Period) 1 ปี สามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมกับบุคคลค้ำประกันได้ พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน บสย. 4 ปี และฟรี! ค่าธรรมเนียมการใช้สินเชื่อ (Front-end Fee) แถมวงเงินสัญญาซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า(Forward Contract)​ 1 เท่าของวงเงินสินเชื่อ ระยะเวลาให้บริการตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธ.ค. 2563 วงเงินเป้าหมายของมาตรการอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 22,000 ล้านบาท

“EXIM BANK จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แม้ในภาวะเงินบาทแข็งค่า โดยผู้ประกอบการไทยสามารถปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้ด้วยบริการของ EXIM BANK รวมทั้งใช้โอกาสนี้นำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าไทยให้แข่งขันได้ในด้านคุณภาพหรือนวัตกรรมในทุกตลาดทั่วโลก”