รองโฆษกรัฐบาลเผย ภาคเอกชนเกาหลีใต้กว่า 20 ราย สนในร่วมลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย สะท้อนความสำเร็จจากนโยบายรัฐบาล
- มองเห็นโอกาสรัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV อย่างชัดเจน
- และตลาด EV ในไทยมีการเติบโตสูงที่สุดในอาเซียน
วันนี้ (1 กันยายน 2566) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ถือเป็นความสำเร็จที่รัฐบาลได้วางรากฐานเอาไว้ จนทำให้คณะผู้บริหาร และผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กว่า 20 ราย ของสมาคมนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเกาหลีใต้ (Korea Smart e – Mobility Association: KEMA) ให้ความสนใจในอุตสาหกรรม EV ของไทย โดยได้หารือโอกาสการร่วมลงทุนกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และพันธมิตรบริษัทไทย ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรม EV ไทยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานในหลายรูปแบบ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561 – มิถุนายน 2566) เกาหลีใต้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 144 โครงการ มูลค่ากว่า 58,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ และดิจิทัล
ทั้งนี้ BOI เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ได้หารือกับ นายคัง จุงมัน นายกเทศมนตรีเมืองยองกวาง ซึ่งเป็นเมืองที่มีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV penetration rate) สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และผู้ประกอบการ EV กว่า 20 ราย จากเกาหลีใต้เดินทางมาศึกษาลู่ทางการลงทุนด้านอุตสาหกรรม EV ในไทย ต่อยอดจากที่ BOI เดินสายโรดโชว์จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนที่เกาหลีใต้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการ EV จากเกาหลีใต้ เห็นว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรม EV ของภูมิภาค และมีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ครบวงจร รวมถึงรัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV อย่างชัดเจน และตลาด EV ในไทยมีการเติบโตสูงที่สุดในอาเซียน จึงสนใจเข้ามาศึกษาและหารือโอกาสร่วมลงทุนกับพันธมิตรบริษัทไทย โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและรถเชิงพาณิชย์ที่ใช้สำหรับการขนส่งและโลจิสติกส์
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณการดำเนินงานอย่างแข็งขันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามแนวทางนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งเสริมและดึงดูดลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ จนเป็นแบบอย่างในการทำงานที่เห็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมั่นว่าด้วยการทำงานอย่างมุ่งมั่นของรัฐบาล ได้วางรากฐานที่สำคัญไว้ให้ประเทศชาติเป็นอย่างมาก” นางสาวรัชดาฯ กล่าว