

“คลัง” เรียกประชุมทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง 10 ก.ย.เดินหน้า กฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ นำความเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้จากการประชาพิจารณ์มาหารือในแนวทางการปรับร่างกฎหมาย “ศึกษิษฏ์” แจงแนวคิดรัฐบาลหนุนเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่เพราะศึกษาโมเดลในหลายประเทศ ชี้ดึงการลงทุนขนาดใหญ่ได้มากกว่า และควบคุมบริหารจัดการได้ง่ายกว่า
ทั้งนี้เรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ อยู่ในนโยบายเร่งด่วนที่สี่ ซึ่งรัฐบาลระบุว่าจะสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนําเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 ของ GDP เพื่อนาไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน พร้อมทั้ง จะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ของรัฐบาลว่าขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์กฎหมายฉบับนี้ตามขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการนำเอาความคิดเห็นต่างๆที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นไว้มาประกอบการแก้ไขเพิ่มเติมโดยกระทรวงการคลังได้นัดหมายหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันอังคารที่ 10 ก.ย.นี้
ขั้นตอนต่อไปเสนอที่ประชุมครม.และสภาฯตามขั้นตอน
โดยหลังจากนี้ก็เป็นขั้นตอนที่จะนำร่างกฎหมายที่มีการปรับปรุงแล้วเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯตามขั้นตอน “ในส่วนของขั้นตอนต่อจากนี้ก็จะต้องมีการปรับปรุงร่างกฎหมาย ซึ่งมีหลายประเด็นที่มีข้อเสนอเข้ามา ส่วนในข้อถกเถียงเรื่องของค่าใบอนุญาต หรือการเก็บค่าเข้ากาสิโน ซึ่งมีคนไม่เห็นด้วยก็ต้องมาหารือกันเพราะรายละเอียดพวกนี้กำหนดไว้ในบัญชีแนวท้ายซึ่งมีการปรับเปลี่ยนได้”
สำหรับแนวความคิดที่มีการแตกต่างกันเรื่องของการสร้างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ในเรื่องของขนาดการก่อสร้างซึ่งก็มีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างการสร้างเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีการลงทุนในบางพื้นที่ที่มีศักยภาพ และการลงทุนโครงการขนาดเล็กกระจายไปทุกจังหวัดและในที่สุดแล้วประเทศไทยเราเลือกสนับสนุนให้มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ครบวงจร ซึ่งเป็นโมเดลแบบที่มีการลงทุนในสิงคโปร์
รัฐบาลต้องการให้เป็นเมกะโปรเจ็กต์ ระดับ 1 แสนล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้เพราะรัฐบาลต้องการให้เป็นการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งหากลงทุนก็ต้องมีการลงทุนในระดับ 1 แสนล้านบาทขึ้นไปในการก่อสร้างแต่ละแห่ง ทั้งหมดสามแห่ง เนื่องจากในการลงทุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นอกจากกาสิโนที่จะมีอยู่ในพื้นที่ไม่เกิน 10% ของโครงการทั้งหมด แต่จะมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในส่วนอื่นๆเช่น ในส่วนของคอนเสิร์ตฮอลล์ โรงแรมหรู ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
นอกจากนี้โมเดลการลงทุนเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่นั้นจะเหมาะสมในแง่ของการควบคุมและกำกับดูแลซึ่งทำได้ง่ายกว่าการมีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์กระจายอยู่ในหลายจังหวัด โดยในแง่ของการกำกับดูแลสามารถที่จะเอารูปแบบ เทคโนโลยี ของหลายประเทศที่มีการเปิดเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่มาเป็นต้นแบบได้ทั้งในเรื่องของกฎหมายควบคุม การกำกับดูแล การใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยตรวจสอบคนที่จะเข้ามาเล่นในกาสิโนซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความพร้อมอย่างมาก
ในส่วนประเด็นพื้นที่ที่จะใช้ในการลงทุนโครงการนายศึกษิษฏ์ได้กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเอกชนที่สนใจลงทุนเลือกพื้นที่ไหน แต่หากเป็นโครงการเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ก็ต้องอยู่ใกล้ๆกับสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญที่รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว และคนที่สนใจเข้ามาใช้บริการ ซึ่งต้องอยู่ในพื้นที่ใกล้กับโครงการคมนาคมขนส่งที่สำคัญ เช่น สนามบินนานาชาติ ท่าเรือ เพื่อให้การเดินทางสามารถทำได้สะดวก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : มาแล้ว!! เปิด 10 นโยบายเร่งด่วนรัฐบาล