นายกฯ ลงนาม ตั้งบอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ

นโยบายเศรษฐกิจ
นายกฯ ลงนามตั้ง บอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ


นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ลงนาม ตั้งบอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสทุกกลุ่มอาชีพเร่งเครื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) มั่นใจประเทศไทยต้องยืนเด่นในเวทีโลกให้ได้ในทุกมิติหลังไทยเปิดฉากร่วมมือด้านศก.ระหว่างประเทศให้เป็นรูปธรรม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกฯได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 321/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายกฯเป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับแรก และผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชนและการประกอบอาชีพ ด้วย

คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์โครงการ แนวทางการดำเนินโครงการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ และแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงกำกับ ดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินโครงการในภาพรวมให้เป็นไปตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกำกับ ติดตาม ขับเคลื่อน และเร่งรัดส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจบรรลุผลสำเร็จ เป็นไปตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบ 

ติดตามและประเมินผลก่อนและหลังการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนหน้าที่และอำนาจ อาทิ ในการติดตามและประเมินผลทั้งก่อนและหลังการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรายงานต่อ ครม. ตลอดจนรวบรวมและจัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่และสร้างการรับรู้ของประชาชน และกำหนดแนวทางการจัดทำฐานข้อมูล รวมถึงการดำเนินการรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น

เตรียมเจรจาทำ FTA กับสหราชอาณาจักร

นายจิรายุกล่าวด้วยว่ารัฐบาลเดินหน้ายกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทย-สหราชอาณาจักร ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางการค้า มุ่งขยายการค้า การลงทุน และการจ้างงานกว่า 20 สาขา โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายดักลาส อเล็กซานเดอร์ (The Rt Hon Douglas Alexander) รัฐมนตรีการค้าของสหราชอาณาจักร ซึ่งเดินทางเยือนเอเชียครั้งแรกนับตั้งแต่ได้ดำรงตำแหน่ง ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น(Enhanced Trade Partnership: ETP) 

ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น สะท้อนถึงศักยภาพด้านเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานของไทยที่ยังคงน่าสนใจ รวมถึงความมุ่งมั่นในระดับการเมืองของไทยและสหราชอาณาจักร ที่จะขยายความร่วมมือในเรื่องการค้าและการลงทุนรอบด้าน พร้อมระบุถึงความร่วมมือที่สองฝ่ายจะดำเนินร่วมกันใน 20 สาขาสำคัญ เช่นยานยนต์ การท่องเที่ยว การลงทุน เศรษฐกิจดิจิทัล บริการทางการเงิน การศึกษา  

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังหารือเพื่อร่วมพิจารณาความเป็นไปได้ในการเจรจา FTA ระหว่างกัน โดยต่างสนับสนุนการเริ่มเจรจาต่อเนื่องเพื่อขยายการค้า ผ่านการสร้างโอกาสทางธุรกิจโดยการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะในสินค้าศักยภาพของไทย เช่นไก่แปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน จักรยานยนต์และชิ้นส่วน และเครื่องจักรกล พร้อมทั้งได้เชิญชวนให้นักธุรกิจสหราชอาณาจักรมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ ประกาศสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ