วันที่ 23 ส.ค. ที่อาคารชินวัตร3 นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อเสนอของภาคเอกชนที่เข้าพบเพื่อสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจ และการแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบาง ว่า วันนี้ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่ภาคเอกชนทุกท่านที่คุยวันนี้ อาทิ สภาหอการค้าไทย , สภาหอการค้าไทย-จีน , สภาอุตสาหกรรมไทย และสมาคมธนาคารไทย ทุกท่านก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน แต่เนื่องจากที่ตนยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ วันนี้จึงเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนทั้ง 4 ภาค และได้แชร์ประสบการณ์ ปัญกาที่ตัดขัด รวมถึงได้ทำความเข้าใจกัน
ในส่วนของความชัดเจนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจากภาครัฐบาล หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับพูดให้ความชัดเจนมากกว่านั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่า รัฐบาลสามารถให้ความชัดเจนได้อีกครั้งในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา สำหรับนายทักษิณ นั้นได้มีการปรึกษากันอยู่แล้ว จริงๆ มีหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่เป็นห่วง คือเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นจริงๆ ถ้าเรารอไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการปรับเลย ประชาชนก็จะเดือดร้อนมากขึ้น จึงมองว่าอะไรที่เป็นทางแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด
ถามว่าประชาชนทุกคนที่ตั้งความหวังไว้จะได้รับข่าวดีหรือไม่ นางสาวแพทองธาร เผยว่า ส่วนตัวมั่นใจว่าจะเป็นข่าวดี ส่วนที่นานทักษิณ พูดแบบมั่นใจว่าประชาชนจะได้รับเงินสดนั้น ตนคิดว่านายทักษิณ พูดชัดทุกเรื่อง ฉะนั้นนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ถามย้ำว่าไม่ว่านายทักษิณ จะพูดอะไรมานั่นคือส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า การคิดนโยบายต่างๆ หรือแม้แต่การที่ภาคเอกชนเข้ามาพบในวันนี้ก็มีการขอความเห็น เพราะเราต้องการทราบว่าแต่ละภาคส่วนที่ยืนอยู่คนละฝั่งจะคิดเห็นอย่างไร เจ้าหนี้กับลูกหนี้ที่ยืนกันคนละฝั่งจะคิดอย่างไร ฉะนั้นการโยนไอเดียระหว่างเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องปกติ นายทักษิณเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ และมีประสบการณ์มากในเรื่องของเศรษฐกิจ จึงมองว่าการโยนไอเดียไปกลับซึ่งกันและกันเป็นเรื่องปกติ ตนเองก็คิดว่าเป็นประโยชน์หากเราได้คุยกับหลายภาคส่วนที่มีประสบการณ์ เพื่อให้นโยบายที่จะออกมาช่วยเหลือประชาชนดีที่สุด
ถามต่อว่าหากประชาชนอยากได้ความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีตัวจริงจะสามารถให้ได้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ได้แน่นอน และค่อนข้างเป็นไปได้ว่ากลุ่มแรกที่จะได้รับเงินคือกลุ่มเปราะบาง แต่ความชัดเจนอื่นๆนั้นต้องรอวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อย่าพึ่งถามตนมากมายกลัวว่าจะผิดกฎ เพราะไม่แน่ใจว่าเรื่องไหนสามารถพูดได้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนความชัดเจนของนายทักษิณ ในการแสดงวิสัยทัศน์ ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการแถลงนโยบายของรัฐบาลไปแล้วนั้น นางสาวแพทองธาร เผยว่า ไม่ใช่แน่นอน นายทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งในรัฐบาล และเรื่องนี้นายทักษิณทราบมาสักพักแล้วว่าจะได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในรายการดังกล่าว และมีการเตรียมการพูดคุยบนเวทีนี้มาสักพักแล้ว เพราะท่านหาข้อมูลทั้งจากคนต่างประเทศและหาข้อมูลจากตนก็ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน ไม่ใช่การแถลงนโยบายแน่นอน แต่เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของท่านโดยที่บางเรื่องอิงกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย
ส่วนจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนั้น นางสาวแพทองธาร เผยว่า มีนโยบายของรัฐบาลด้วย เพราะกำลังวิเคราะห์ในเรื่องของเศรษฐกิจของประเทศไทย นโยบายที่กำลังดำเนินอยู่แล้วถูกพูดถึงถือเป็นเรื่องปกติมาก
เมื่อถามว่าในเมื่อนายทักษิณ มีความรู้ ความสามารถ ถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่อาจมีข้อหาการครอบงำเข้ามา นายกฯมีการคุยกับพ่อจะให้เข้ามามีตำแหน่งเพื่อเลี่ยงปัญหาการครอบงำ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ แล้วต้องระวังเรื่องกฎหมนยและกฎต่างๆ มากมาย และเชื่อเหลือเกินว่าวิสัยทัศน์จองนายทักษิณ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่ไม่ใช่การครอบงำ เพร่ะนอกจากนายทักษิณ ก็ยังมีคนเกางๆ อีกมายมาย แต่ไม่ถูกมองว่าเป็นการครอบงำ เพราะบุคคลนั้นอาจไม่เคยอยู่ในการเมืองจึงไม่ถูกมองว่าครอบงำ แต่พอเป็นนายทักษิณ ที่เคยเป็นนายกฯ และเป็นพ่อของนายกฯ เลยมองว่าเป็นการครอบงำ ซึ่งมีเส้นบางๆ อยู่ แต่ยืนยันว่าไม่มีการครอบงำ ตนมีความคิดของตัวเอง ค่อนข้างชัดเจนพอสมควร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ แพทองธาร พร้อมนำประเทศไทยเพิ่มพูนการเป็นหุ้นส่วนกับซาอุฯ ทุกมิติ
