ซีอีโอ Trip.com Group เปิดข้อมูลเชิงลึกในเวทีโลก เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม “WEF 2024” ชี้เป้าหลังโควิดปี’67 อุตสาหกรรมท่องเที่ยว “ไทย” และเอเชีย” โตแรงครองส่วนแบ่งตลาดโลก 50% ตรุษจีน ก.พ.นี้ ยอดจองมาไทยติด 1 ใน 3 แนะลงทุนในจีนโอกาสสูง 3 หมวด “ท่องเที่ยว-สุขภาพ-บันเทิง”
- ประธานเจน ชี้เป้าปี’67 ท่องเที่ยวไทยกับเอเชียแรงสุด ๆ ได้อานิสงวีซ่าฟรี
- ย้ำไทยห้ามพลาดลุยขาย ทัวร์สุขภาพ งานกิจกรรม คอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี
- เร่งกระตุ้นลูกค้ากว่า 16 ล้านคน มุ่งเที่ยวเทรนด์ยั่งยืนร่วมลดคาร์บอน
เจน ซุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ Trip.com Group เปิดเผยว่านำ Trip.com Group ในฐานะแพลตฟอร์มให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกพร้อมตอบรับแนวโน้มและโอกาสใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด ด้วยการนำข้อมูลเชิงลึกนำเสนอใน WEF : World Economic Forum: WEF งานประชุมผู้นำสำคัญระดับโลกจัดขึ้นทุกปีที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ โดยได้นำเสนอแสดงทรรศนะเชิงบวกถึงการเติบโตของภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง กับมุมมองด้านศักยภาพการลงทุนของภูมิภาคในวงเสวนาหัวข้อ “Asia – the world’s next growth anchor?”
โดยมีผู้นำสำคัญระดับโลกภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคสังคม มารวมตัวกันในงานดังกล่าว เพื่อหารือเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานที่จะขับเคลื่อนพัฒนาความเชื่อมั่น ภายใต้บริบทของโลกที่แตกแยกและเกิดความไม่แน่นอนขึ้น บนเวทีผู้เกี่ยวข้องที่มีอิทธิพลทางความคิดแต่ละคนได้ร่วมเสวนาเจาะลึกถึงโอกาสที่น่าสนใจและความท้าทายใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดเอเชีย เจน ซุน ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกับ รอย กอริ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมนูไลฟ์บริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดของแคนาดา เจฟฟ์ ลี กรรมการบริหาร หัวหน้าฝ่ายตลาดเอกชน และหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีคาซานาห์ แนชันแนล กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลมาเลเซีย ดำเนินการเสวนาโดย เบนจามิน ฮุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ภูมิภาคเอเชีย
เจน ซุน นำเสนอว่าขณะนี้การท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ทาง Trip.com Group ได้เห็นพฤติกรรมความสนใจจองที่พักของภูมิภาคเอเชีย โดยเลือกจุดหมายปลายทางยอดนิยมหลัก 3 ประเทศหลัก คือ ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ส่วนผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดแนวโน้มการท่องเที่ยวในภูมิภาคตามรูปแบบต่าง ๆ เช่น ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีคุณภาพ การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม โดยเฉพาะความสนใจอย่างมากกับทัวร์ชมคอนเสิร์ต และเทศกาลดนตรีต่างๆ
ขณะเดียวกันผู้ใช้บริการ Trip.com Group มากกว่า 16 ล้านคน ขานรับแนวโน้มการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนยังกำลังเติบโต กับความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นแรงจูงใจให้หันมาท่องเที่ยวแบบปล่อยคาร์บอนต่ำ เช่น เลือกใช้โรงแรมที่ปฏิบัติตามมาตรฐานเพื่อความยั่งยืน แล้วทางกลุ่มบริษัทยังให้ความสำคัญกับทางเลือกอื่น ๆ เช่น ใช้รถเช่ารถยนต์ไฟฟ้า กับนำเสนอตัวเลือกเที่ยวบินที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำกว่า
ประธานเจนแสดงความมั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียขนาดใหญ่ที่สุดหลังสถานการณ์โควิด-19 สาธารณรัฐประชาชนจีนมีศักยภาพการลงทุนมากกว่าที่หลายฝ่ายมองเห็น ดังนั้นจึงขอย้ำให้นักลงทุนไม่ควรมองข้าม 3 หมวด ได้แก่ 1.การท่องเที่ยว 2. สุขภาพ 3.ความบันเทิง ในจีนเติบโตอย่างมากเพราะประเทศมีขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยอุตสาหกรรมหลากหลาย ระดับกำลังซื้อของผู้บริโภคแตกต่างกัน นักลงทุนจึงมีโอกาสมากมาย โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวมีโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเติบโตได้มากมาย เห็นได้จากการเดินทางขาเข้าและขาออกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลอดจนรัฐบาลจีนพัฒนานโยบายต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องตลอด
รวมถึงได้แสดงมุมมองเชิงบวกต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งล่าสุดกำลังเจริญเติบโตมาก เช่น การเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับผู้โดยสาร การขยายการยกเว้นวีซ่าอำนวยความสะดวกให้การเดินทางระหว่างประเทศทั้งขาไปและขากลับจากจีน เดินหน้าใช้นโยบายยกเว้นวีซ่านักเดินทางตั้งแต่กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมาจีนได้ยกเลิกข้อกำหนดด้านวีซ่าสำหรับพลเมืองแล้วถึง 11 ประเทศ ทั้งจากฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย ไทย สิงคโปร์แล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้จีนยังประกาศจะอนุญาตให้สวิตเซอร์แลนด์ และไอร์แลนด์เดินทางเข้าโดยไม่ต้องขอวีซ่าเช่นกัน
จากข้อมูลของ Trip.com Group พบว่ายอดการค้นหาและจองเที่ยวบินขาเข้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจาก 3 ประเทศคือ เยอรมนี สเปน เนเธอร์แลนด์ ส่วนประเทศที่ได้ยกเว้นหรือกำลังวางแผนนโยบายผ่อนปรนวีซ่าสำหรับชาวจีน เช่นไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนสนใจมาเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์ 2567
หลังจาก Trip.com เปิดตัว “คู่มือนักเดินทางท่องเที่ยวในจีน” เริ่มเมื่อกันยายน 2566 โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรม การเดินทาง การชำระเงิน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง คู่มือนี้ได้ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่วางแผนจะไปเยือนจีนแล้วเกือบ 100,000 ราย เฉพาะช่วงกลางเดือนมกราคม 2567 มียอดการจอง “การเดินทางขาออก” ช่วงวันหยุดตรุษจีนปี 2567 เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า เปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ประธานเจนยืนยันว่าโดยภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มแข็งแกร่งอ้างอิงจากการคาดการณ์ของเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่สร้างการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของทั้งโลกได้มากถึง 50% จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพัฒนาอย่างรวดเร็ว บวกกับกำลังซื้ออันแข็งแกร่งของลูกค้าในเอเชีย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ Trip.com Group มุ่งมั่นจะสร้างเครือข่ายอันทรงพลังกับพันธมิตรทั่วโลกเพิ่มขีดความสามารถด้านการต้อนรับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมทั้งจะนำลูกค้าจากเอเชียเข้าสู่เวทีระดับโลก เปิดประตูสู่โอกาสไร้พรมแดน สร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จระดับนานาชาติ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้ได้ต่อไป -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
