นายกฯ เศรษฐาดันเที่ยวเชียงใหม่อู้ฟู่ ททท.ผุด 3 โปรเจกต์

นายกฯ เศรษฐา ปลดล็อกเชียงใหม่เพิ่มรายได้ท่องเที่ยวปี’67 สั่งทำพร้อมกันทีเดียว 3 เรื่อง “ยกเครื่องโครงข่ายคมนาคมบก/อากาศ-เปิดเส้นทางเที่ยวเชื่อมโยงใหม่-ลดฝุ่น PM 2.5” ททท.ขานรับทันควัน 3 โปรเจกต์ “เที่ยวมหาศรัทธา/12 เดือน 12 เทศกาล/เมืองแห่ง Workation”

  • เชียงใหม่ตีปีก นายกฯเศรษฐาเปิดทางเชียงใหม่ชูท่องเที่ยวโกยต่อจากปี 66 ทำไว้ 7.5 หมื่นล้าน
  • เม.ย.67 นำร่องถนนสายใหม่เชื่อมพื้นที่ขายท่องเที่ยวเด่น 7 เส้นทาง 
  • หลังเปิดสนามบินเชียงใหม่บริการ 24 ชั่วโมง เที่ยวบินเพิ่มอื้ออีกกว่า 100 เที่ยว/เดือน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย ภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการเชื่อมโยงระบบขนส่งการเดินทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยมี 3 รัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายณณัฏฐ์ หงส์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.

โดยที่ประชุมรับทราบ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องที่ 1 ความคืบหน้าการปรับปรุงโครงข่ายถนนในเขตเมืองเชียงใหม่วงแหวนให้เชื่อมต่อกันได้ครบวงจรรอบ 3 วง เรื่องที่ 2 แผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้าใต้ดิน LRT สายสีแดง น้ำเงิน เขียว เชื่อมโยงสนามบินเชียงใหม่ สู่ตัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว เรื่องที่ 3 ลดปัญหาฝุ่นละอองพิษ PM 2.5 ตามแผนระยะสั้นภายในเดือนเมษายน 2567 จะเปิดเส้นทางเดินรถโดยสารสาธารณะใหม่ 3 เส้นทาง เชื่อมเข้าสนามบินเชียงใหม่ สถานีรถไฟ และแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 แห่งได้แก่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ น้ำตกห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ เวียงกุมกาม และวัดพระธาตุดอยคำ

รวมทั้งจะเปลี่ยนรถแดงเชียงใหม่ให้เป็นรถแดงไฟฟ้า (EV) ลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและฝุ่นละออง จัดตั้งป้ายรถเมล์อัจฉริยะ Smart Bus Stops และ Smart Bus System ขณะที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่จะเพิ่มขีดความสามารถรองรับเป็นปีละ 18 ล้านคน จากปัจจุบัน 8 ล้านคน และอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การสร้างท่าอากาศยานล้านนาเป็นสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 หลังจากได้ประกาศให้สนามบินเชียงใหม่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และมาตรการวีซ่าฟรีทำให้เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 100 เที่ยว/สัปดาห์ นำนักท่องเที่ยวตลาดสำคัญเข้าสู่เชียงใหม่ 4 ประเทศ ได้แก่ จากเซี่ยงไฮ้ฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน คันไซ ญี่ปุ่น ไทเป ไต้หวัน นิวเดลีและมุมไบ อินเดีย

นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาปรับปรุงทางหลวงให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวอย่างสะดวก 6 เส้นทาง ได้แก่ 1.เชียงใหม่-เชียงราย 2.เชียงใหม่-ลำพูน 3.จอมทอง-ฮอด 4.เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 5.เชียงใหม่-ปาย 6.เชียงใหม่-แม่กำปอง-กิ่วฝิ่น-แจ้ซ้อน กับทำทางเดินเท้าขึ้นดอยสุเทพ

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.เชื่อมั่นการพัฒนาระบบขนส่งเชื่อมโยงทั้งทางบกและทางอากาศจะเพิ่มขีดความสามารถกับศักยภาพเชียงใหม่ในการเดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกเกิดการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวทั่วเชียงใหม่และเชื่อมโยงพื้นที่จังหวัดโดยรอบ ดังนั้น ททท.จึงจะเดินหน้าต่อยอดทำทันที 3 โครงการ ประกอบด้วย

โครงการที่ 1 ททท. สำนักงานเชียงใหม่เสนอเปิดท่องเที่ยวเชื่อมโยงเพิ่ม 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 ท่องเที่ยวChiangmai Faithival หรือเที่ยวเชียงใหม่…มหาศรัทธา และ เส้นทาง 2 Chiang Mai I Care เที่ยวเชียงใหม่สรรค์สร้างประสบการณ์ สร้างการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้อย่างยั่งยืน รองรับตลาดกลุ่มครอบครัวเสนอขายกับคนไทยและต่างชาติ

โครงการที่ 2 ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชียงใหม่ตลอดทั้งปี ภายใต้แนวคิด “12 เดือน 12 เทศกาล” ต่อยอดสนับสนุนการจัดงานเทศกาลประเพณีให้เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งเทศกาลหรือ Chiang Mai Festival City มุ่งกระจายการท่องเที่ยวโดยจะไม่กระจุกตัวอยู่ช่วงเวลาเดียว โครงการที่ 3 เร่งผลักดันให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางตลาดทำงานได้เที่ยวด้วยหรือ Workation และ Digital Nomad พร้อมสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียล มีเดีย แพลตฟอร์ม ผ่านอินฟลูเอนเซอร์กับเครือข่ายพันธมิตรสื่อมวลชนของ ททท.ต่างประเทศทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวเชียงใหม่ตัวเลขล่าสุด 11 เดือน ระหว่างมกราคม – พฤศจิกายน 2566 มีผู้เยี่ยมเยือนรวม 9.4 ล้านคน-ครั้ง เติบโต 24% เทียบกับปี 2565 สร้างรายได้กว่า 75,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% เทียบกับปี 2565 มีส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย  73% ต่างชาติ 27% ซึ่งนิยมท่องเที่ยวเชียงใหม่ไฮไลต์ 5 ตลาดได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเลเซีย

ปัจจุบันเชียงใหม่มีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศบริการ 606 เที่ยว/เดือน รวม 109,440 ที่นั่ง มาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมากสุด 7 เมือง คือ ปักกิ่ง หางโจว เฉินตู กวางโจว เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง จิ่นหง เวียดนาม 3 เมือง คือ ดานังฮานอย โฮจิมินห์ กัวลาลัมเปอร์/มาเลเซีย สิงคโปร์ หลวงพระบาง/สปป.ลาว ย่างกุ้ง/เมียนมา ไทเป/ไต้หวัน เกาหลีใต้2 มือง คือ อินชอนกับปูซาน คันไซ/ญี่ปุ่น ฮ่องกง และมาเก๊า -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน