โรงแรมไทย-แบงก์ชาติ ทำโพลล์ Q1 ปี 67 รายได้ทั่วไทยไม่ฟื้น

สมาคมโรงแรมไทยร่วมแบงก์ชาติ เปิดโพลล์ธุรกิจที่พัก ไตรมาส 1 ปี’67 “รายได้” ยังไม่ฟื้น รอความหวังปี’68 ระดับ4 ดาวขึ้นไปในภาคใต้กับภาคกลางขยับค่าห้องได้สูงกว่าปี’62 แล้ว ส่วนอีสานอึมครึม วอนรัฐช่วยด้วย 4 มาตรการ“แรงงาน-สินเชื่อ-ลดค่าใช้จ่าย-อัดฉีดเงินเที่ยว”

  • THA กอดคอแบงก์ชาติทำโพลล์โรงแรม Q1 ปี 67 ภาพรวมทั้งประเทศไม่ฟื้นโตแผ่ว
  • ขอตัวช่วยรัฐบาลด่วน 4 มาตรการปลุกรายได้ปี’68กลับมาโตเท่าปีก่อนโควิด

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA :Thai Hotels Association) เปิดเผยว่า มีผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือนธันวาคม 2566 ที่สมาคมโรงแรมไทยร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยจัดทำให้เห็นถึงสถานการณ์แนวโน้มของธุรกิจช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 โรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ส่วนใหญ่กว่า 80% ประเมิน “รายได้” ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเท่าก่อนปีเกิดโควิด บางกลุ่มยืนยันจะเริ่มฟื้นจริงปี 2568 และมีลูกค้าต่างชาติไม่นับรวมตลาดสาธารณรับประชนจีนแนวนโน้มภาพรวมไตรมาสแรกปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ส่วนลูกค้าคนไทยจะทรงตัว

ในจำนวนนี้มีโรงแรมประมาณ 20% มีรายได้เท่ากับหรือมากกว่าช่วงโควิดแล้ว ส่วนใหญ่เป็นระดับ 4 ดาวขึ้นไป ในภาคกลางและภาคใต้ แต่โรงแรมอีก 10% คาดยังไม่สามารถทำรายได้กลับสู่ระดับเดิม รวมทั้งผลสำรวจครั้งนี้เรื่อง“ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน” ช่วงเดือนธันวาคม 2566 เปรียบเทียบกับก่อนเกิดโควิด พบโรงแรมกว่า 50% ปรับราคาห้องพักได้สูงกว่าช่วงก่อนโควิด โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ภาคใต้ แต่โรงแรมส่วนใหญ่ไม่เกิน 3 ดาว ยังปรับราคาได้จำกัด อย่างภาคอีสานต้องขายห้องพักราคาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดต่อไป

ขณะที่ “อัตราการเข้าพักเฉลี่ย” ช่วงไฮซีซันตลอดเดือนธันวาคม 2566 ที่พักทั่วไทยทำด้ 68% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน คาดการณ์เดือนมกราคม 2567 จะทำได้ประมาณ 65% เป็นผลมาจากผลสำรวจของผู้ตอบแบบสอบถาม 71% ที่มีต่างชาติเข้าพัก 50% ระบุภาพรวมมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติใกล้เคียงกับเดือนก่อนตลาดหลักจะเป็นเอเชีย (ไม่รวมจีน) ตะวันออกกลาง (ไม่รวมจีน) และยุโรปตะวันตก กระจายเข้าพักระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 แบ่งตามรายภูมิภาค เป็นดังนี้

“ภาคกลาง”เดือนพฤศจิกายน 70.3% เดือนธันวาคม 77% “ภาคใต้”เดือนพฤศจิกายน 69.7% เดือนธันวาคม 75.1% “ภาคตะวันออก” เดือนพฤศจิกายน 64.6% เดือนธันวาคม 65.8% “ภาคเหนือ” เดือนพฤศจิกายน 62.3% เดือนธันวาคม 65% และ “ภาคอีสาน” เดือนพฤศจิกายน 43.3% เดือนธันวาคม 38.3%

ส่วน “การจ้างงาน โรงแรมกว่า 60% ต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาทำให้ส่วนใหญ่ไปกระทบคุณภาพให้บริการ แต่ไม่กระทบความสามารถที่จะรองรับลูกค้า

จากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับธุรกิจโรงแรม ทำให้ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐพิจารณาความช่วยเหลือ 4 มาตรการ คือ

มาตรการที่ 1 กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มจำนวนและเน้นตลาดคุณภาพ เปิดวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมกับกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะเมืองรอง

มาตรการที่ 2 ช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่าย ลดราคาพลังงาน ค่าสาธารณูปโภค และค่าแรง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจโรงแรม

มาตรการที่ 3 ด้านแรงงาน เช่น ช่วยพัฒนาและอบรมบุคลากร ยกระดับฝีมือแรงงานและเพิ่มบุลคากรภาคท่องเที่ยวให้มากขึ้น

มาตรการที่ 4 ด้านการเงิน พิจารณาเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ธุรกิจโรงแรมนำไปใช้ปรับปรุงที่พักเพื่อสามารถแข่งขันได้ และมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจฟื้นตัวได้

ซึ่งทางสมาคมโรงแรมไทยยืนยันช่วงไฮซีซั่นธันวาคม 2566 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวทั่วประเทศฟื้นตัวแบบไต่ระดับ หลังรัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนโดยขยายเวลาเปิดบริการสถานบันเทิง ยกเว้นการวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวจีน อินเดีย คาซัคสถาน ไต้หวัน รวมถึงการร่วมมือกันของภาครัฐ กับเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่น จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในแต่ละจังหวัด สร้างภาพลักษณ์ไทยเป็นแลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์ระดับโลก

ปี 2567 ทางสมาคมโรงแรมไทย มุ่งหวังให้รัฐบาลเร่งออกนโยบายและมาตรการด้านต่าง ๆ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมที่พักขยายตัวเติบโตได้ โดยเพิ่ม 1 มาตรการลดหย่อนภาษี 1 นโยบายด้านพลังงานกับปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน หรือประกาศกฎกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจโรงแรม เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนจัดการดำเนินงานธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเสาหลักสนับสนุนรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้นี้ -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน