“อนุทิน” เผยชัด นโยบายกัญชา พรรคภูมิใจไทย ยังเหมือนเดิม ใช้ พ.ร.บ.กำกับดูแล ลั่นตนไม่กังวลตั้ง เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็ก ชี้ถ้าทุกอย่างอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
- ไม่มีการกีดกัน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
- เผยแบบนี้พรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมสนับสนุน
- ชี้ปัจจุบันมีเรื่องของจริยธรรม ศีลธรรม เข้ามาเป็นองค์ประกอบ ในการตัดสินใจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการยื่นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ให้กับหัวหน้ารัฐบาลพิจารณา ว่า มีหลายข้อ โดยทุกข้อเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ทิศทางของนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในเอกสารให้ใช้ พ.ร.บ.ดูแล นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ นายเศรษฐาทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยเคาะออกมา ซึ่งท่านให้ใช้ พ.ร.บ. เข้าไปจัดการ
นอกจากนี้ กลุ่มสื่อมวลชนได้สอบถามไปถึงนโยบาย การตั้งเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็ก ซึ่งมีความพยายามผลักดันกันอยู่ ณ เวลานี้ นายอนุทิน กล่าวตอบว่า ถ้าทุกอย่างอยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่มีการกีดกัน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมสนับสนุน นโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว
“เอาจริงๆ ตอนนี้ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันนี้ มีเรื่องของจริยธรรม ศีลธรรม ซึ่งมันกว้างมาก เข้ามาเป็นองค์ประกอบ ในการตัดสินใจ ผมเชื่อว่าทุกฝ่าย ต้องระมัดระวังพอสมควร” นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับนโยบายพรรคภูมิใจไทย ที่ยื่นให้นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อพิจารณาจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาล แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา ประกอบด้วย 6 ข้อ คือ
1.จัดระเบียบสังคม บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความปลอดภัย ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้กระทำผิดกฎหมาย และป้องกันเยาวชนให้พ้นจากขบวนการค้ายาเสพติด ควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิง และการพนันผิดกฎหมาย
โดยการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงและการพนัน ให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐ และประชาชนเป็นสำคัญ
2.กระจายอำนาจการเงินการคลังสู่ท้องถิ่น เพิ่มขึ้น โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจนำส่งภาษีรายได้ ให้แก่ท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อสร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมพัฒนาท้องถิ่น และการดูแลชุมชน ของประชาชน
3.จัดการศึกษาเท่าเทียม ทุกระดับชั้น โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาสนับสนุน ส่งเสริมการเรียนการสอน การสอบวัดผล การพัฒนาคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานการศึกษา และลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษาให้แก่ประชาชน และลดภาระของรัฐ
4.ขยายพื้นที่ และพัฒนาระบบประปา และน้ำดื่มสะอาดที่มีมาตรฐานสุขอนามัย ทั้งเพื่อการบริโภค และอุปโภค อย่างทั่วถึง เพื่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และลดค่าใช้จ่ายจัดซื้อน้ำดื่ม ในการดำเนินชีวิตของประชาชน
5.สนับสนุนให้ประชาชน มีระบบโซล่าเซลล์ ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในครัวเรือน และมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการใช้ในครัวเรือน คืนให้รัฐ
6.ส่งเสริมการวิจัย พัฒนา ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย รวมถึงกัญชา เพื่อการแพทย์ สุขภาพ สร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยการตราเป็นพระราชบัญญัติ และมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
