บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน



คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบแนวทางเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน ทั้งกำกับดูแลการซื้อขายหุ้น การพัฒนาและชูศักยภาพของบริษัทจดทะเบียน

  • ลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน
  • ส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆโดยเฉพาะNew Economy
  • เสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บอร์ด.) ที่มีนายพิชัยชุณหวชิร เป็นประธาน ได้เห็นชอบแนวทางเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน ด้านการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้น และแนวทางการพัฒนาและชูศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การสร้างตลาดทุนที่มีคุณภาพสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยแนวทางแรกคือ การดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น มุ่งยกระดับการกำกับดูแล Naked Short Selling และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (Program Trading) โดยเฉพาะการส่งคำสั่งซื้อขายด้วยความเร็วสูง (HFT) ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการยื่นคำขอหรือลงทะเบียนผู้ลงทุนที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ HFT เพื่อให้สามารถเห็นข้อมูลผู้ลงทุนในระดับบัญชีย่อย (Sub-Account) ของบัญชีที่ไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ (Omnibus Account) ในขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีระบบควบคุมการบริหารความเสี่ยงในการส่งคำสั่งซื้อขาย (Pre-Trade Risk Management) เพื่อตรวจสอบการมีหลักทรัพย์ของลูกค้าที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ HFT ก่อนที่จะส่งคำสั่งขายเข้ามาในระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ

 นอกจากนี้ จะมีการกำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย ก่อนที่จะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งดังกล่าว (Minimum Order Resting Time) เพื่อสร้างมาตรฐานเกี่ยวกับความเร็วของการส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งจะช่วยป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการส่งคำสั่งซื้อขายทุกประเภท โดยมาตรการดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายดังกล่าวข้างต้นอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น และคาดว่าจะสามารถนำเสนอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้

ส่วน แนวทางที่ 2 คือ การพัฒนาและชูศักยภาพของบริษัทจดทะเบียน มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกด้วยการเก็บรวบรวมและการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ความสามารถในการแข่งขันรายกลุ่มอุตสาหกรรม ภาวะอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New Economy) อันจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของภาครัฐ ออกมาเผยแพร่และต่อยอดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสื่อต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุก ๆ ฝ่าย 

อีกทั้งจะให้การสนับสนุนข้อมูลและงบประมาณให้กับหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อจัดทำ Industry Analysis & Outlook Report รวมถึงจะประสานความร่วมมือกับองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง (เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย) เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน อันจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New Economy) ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย”

ข้อมูลอ้างอิงจาก: ตลากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย www.set.or.th

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:https://thejournalistclub.com/economics-set-news-20240320/253942/