

ที่ปรึกษา ชงเศรษฐา ตัดใจลา ดิจิทัลวอลเล็ตทั่วไทย คงไว้แค่กลุ่มเปราะบาง หลังผลสำรวจนิด้าโพลชัด ประชาชนส่วนใหญ่ไม่โกรธถ้าจะยกเลิก
- ส่งความเห็นเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว
- ไม่ควรฝืนความคิดเห็นประชาชน
- รอนายกฯตัดสินใจอีกไม่นาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาที่ปรึกษาคนสำคัญๆของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำรายงานเสนอต่อนายเศรษฐา เพื่อขอให้ทบทวนนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท จากกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้แก่ประชาชนทั่วไปภายใต้วงเงิน 500,000 ล้านบาทอีกครั้ง
ทั้งนี้หลังจาก “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)ออกมาเปิดเผยผลการสำรวจความเห็นประชาชนต่อการแจกเงินดิจิทัลล่าสุดว่า ประชาชนจะไม่โกรธหากนายกฯเศรษฐา ตัดสินใจยกเลิกการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

จากโพลที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนหากนายกฯตัดสินใจยกเลิกการแจกเงินดิจิทัล ได้รับคำตอบจากกลุ่มที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย และได้เลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมาว่า ไม่โกรธเลย 64.93% ขณะที่เมื่อรวมกลุ่มที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้เลือกเมื่อวันที่ 14พ.ค. กลุ่มที่ไม่เคยเลือกพรรคเพื่อไทยเลย กลุ่มที่ยังไม่เคยเลือกตั้ง และกลุ่มที่ไม่สนใจ/ไม่ตอบ เปอร์เซ็นต์ที่ไม่โกรธเลย จะอยู่ที่ 68.85%
กลุ่มที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทยและเลือกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่ตอบว่า ค่อนข้างโกรธ มีจำนวน 14.45% และโกรธมากมี 11.95% ขณะที่มีคนจำนวนตอบวา ไม่ค่อยโกรธ 8.48% ที่เหลือ 0.19% ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ทำการสำรวจความเห็นประชาชนในหัวข้อเรื่อง วิกฤติเศรษฐกิจ กับ การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในระหว่างวันที่ 22 – 24 ม.ค.2567 จากประชาชนในกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายอยู่ทุกภูมิภาคจำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง และเก็บข้อมูลหลายขั้นตอน โดยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น 97.0%
สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทย มีคนจำนวน 63.51% ตอบว่า พวกเขาเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
20.15% ตอบว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องการทางแก้ไข แต่ไม่เร่งด่วน,10.08% ตอบว่าเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ไม่น่ากังวลใดๆ และ 5.65% ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่ผชิญต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ 36.72% ตอบว่า วิกฤติเศรษฐกิจของเขาอยู่ในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน 31.91% เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่สามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง20.45% เผชิญวิกฤติในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ไม่เร่งด่วน และ 10.92% ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจใดๆ
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีคนจำนวน 23.12% ตอบว่า ควรหยุดดำเนินนโยบายนี้ได้แล้ว 45.28% ตอบว่า ดำเนินนโยบายต่อไปในปีนี้ตามที่ได้ประกาศไว้ 18.69% เห็นว่า ดำเนินการตามนโยบายนี้ต่อไปในปีนี้แต่แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ

จำนวน 5.98% เห็นควรให้เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2568 ส่วนอีก 5.39% ให้เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2568 แต่แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ ที่เหลือ 1.54% ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบรรดาที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจเห็นว่า การสำรวจความคิดเห็นประชาชนดังกล่าว ดำเนินการโดยละเอียดเช่นนี้ จึงมีความเห็นเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ไม่ควรฝืนความคิดเห็นประชาชน
แม้ว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ได้หาเสียงไว้ก็ตาม แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ก็ควรยุติการดำเนินงานตามนโยบายนี้เสีย เพื่อไม่ไปสร้างข้อขัดแย้งกับประชาชนอีก เพราะยังไม่อีกหลายนโยบายที่จำเป็นต้องดำเนินการ ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ คงต้องรอการตัดสินใจอีกไม่นาน