บสย. ลุยต่อ! ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อปี 67 แตะ 1.15 แสนล้าน

บสย.เผยผลสำเร็จปี 66 ยอดค้ำทะลุเป้า 114,025 ล้านบาท ชูแผนยุทธศาสตร์ปี67 วางกลยุทธ์ “3 ช่วย“ ดันเป้าค้ำสู่ 115,600 ล้านบาท

  • เผยยอดแก้หนี้ปี 66 มาแรง ช่วยสะสม 19,000 ราย รวมมูลหนี้ 6,942 ล้านบาท
  • วางกลยุทธ์ 3 ช่วย “ช่วย..ค้ำ ช่วย..ปรับโครงสร้างหนี้ ช่วย..แก้หนี้” เสริมแกร่ง SMEs ไทย
  • ลั่นมีแผนค้ำประกันสินเชื่อธุรกิจนอนแบงก์ โดยธุรกิจดังกล่าว ต้องได้รับใบอนุญาตการจาก ธปท.

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยถึงความสำเร็จการดำเนินงาน บสย.ปี 66 ว่า ผลการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ บสย. ปี66 อนุมัติค้ำประกันรวม 114,025 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการภาครัฐ (PGS 10 และโครงการอื่นๆ) 51,249 ล้านบาท(สัดส่วน 45%) ค้ำเฉลี่ยต่อราย 5.9 แสนบาท 2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก หรือ พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟูระยะที่ 2 43,376 ล้านบาท (สัดส่วน 38%) ค้ำเฉลี่ยต่อราย 5.3 ล้านบาท 3.โครงการบสย. ดำเนินการเอง วงเงิน 19,400 ล้านบาท (สัดส่วน17%) ค้ำเฉลี่ยต่อราย 2.55 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อ กรุงเทพ-ปริมณฑล 45% และภูมิภาค 55%

ขณะที่การค้ำประกันสินเชื่อโครงการ SMEs เพื่อความยั่งยืน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญจาก27%ในปี65 เป็น 29% ในปี 2566 ได้แก่ โครงการค้ำประกันรายย่อย Micro Entrepreneurs โครงการ Start up Innovation โครงการ Green SMEs โครงการหนี้นอกระบบและโครงการพิเศษ พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู และโครงการ PGS สำหรับกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ได้สินเชื่อ จำนวน 99,298 ราย 80% เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) รักษาการจ้างงาน 855,087 ตำแหน่ง สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 470,388 ล้านบาท สร้างสินเชื่อในระบบ 124,815 ล้านบาท (คิดเป็น 1.10 เท่า ของยอดค้ำประกัน)

“สัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อภาคบริการมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ภาคการผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆและ ภาคเกษตรกรรม หดตัวเล็กน้อย กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มยานยนต์ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2565 สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยต่อสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวสนับสนุนภาคการบริโภคขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ค้ำสูงสุดคือ SMEs รายย่อยซึ่งอยู่ในภาคการผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ สัดส่วน33% ตามด้วย ภาคบริการ และสินค้าอุปโภค-บริโภค” 

นายสิทธิกร กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ บสย.ได้ดำเนินโครงการแก้หนี้เอสเอ็มอี โดยช่วยผู้ประกอบการแก้หนี้ สะสมตั้งแต่ปี60- 66 ช่วยลูกหนี้เข้าโครงการประนอมหนี้แล้วจำนวน 19,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ปรับโครงสร้างสะสม 6,942 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระหว่างปี65 จนถึงปี66 ซึ่งเป็นปีที่ บสย. ออกมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” มาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว “ผ่อนน้อย เบาแรง” ชูดอกเบี้ย 0% สามารถช่วยลูกหนี้ได้กว่า 13,378 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 4,723 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี67 บสย.มีแนวคิดที่จะเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อจากธุรกิจนอนแบงก์ หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ที่อยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยธุรกิจนอนแบงก์ดังกล่าว จะต้องได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อีกด้วย ขณะนี้ บสย.อยู่ระหว่างการแจ้งเรื่องไปที่กระทรวงการคลัง ในการดำเนินการขอค้ำประกันสินเชื่อนอนแบงก์แพลตฟอร์ม ซึ่งปัจจุบันกฎหมายของ บสย. สามารถดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อนอนแบงก์ได้ แต่ต้องเป็นธุกิจนอนแบงก์ที่สถาบันการเงินถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50%

นายสิทธิกร กล่าวว่า ในปี67 บสย.ยังคงเดินหน้ามาตรการช่วยลูกหนี้อย่างเข้มข้น โดยตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อไว้ที่ 115,600 ล้านบาท สนับสนุน SMEs เข้าถึงสินเชื่อในระบบดำเนินการ 2 โครงการหลักคือ 1.โครงการค้ำประกัน ที่บสย. พัฒนาขึ้น อาทิ BI7 และ RBP วงเงิน 75,600 ล้านบาท และโครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก หรือพ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปีแรกไม่เกิน 5% วงเงิน 40,000 ล้านบาท รวมถึงยังมีแผนที่จะสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน(ESG)โดยปัจจุบัน บสย.มีพอร์ตสินเชื่อในกลุ่ม ESG อยู่ที่ 30% ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายว่าในปี71 พอร์ตสินเชื่อเกี่ยวกับESG จะขยับขึ้นเป็นกว่า70-80% ของพอร์ตทั้งหมด

อย่างไรก็ตามบสย. ยังคงจะเพิ่มมาตรการการช่วยเหลือลูกหนี้ แก้หนี้อย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการปลอดดอกเบี้ย ขยายเวลามาตรการ 3 สี (ม่วง เหลือง เขียว) “บสย. พร้อมช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่องอีก 1 ปี และ “มาตรการปลดหนี้” ต่อยอด “มาตรการสีฟ้า” ปลดหนี้ ลดต้น 15% สำหรับลูกหนี้บสย. มาตรการสีเขียว ผ่อนดี 3 งวดต่อเนื่อง สิ้นสุดระยะเวลาทดลองโครงการเฟสแรก 30 มิ.ย.67 “มาตรการแก้หนี้” พักหนี้ 1 ปี สำหรับผู้ประกอบการSMEs รหัส 21 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ระยะเวลาดำเนินโครงการ 18 เดือน เริ่ม 1 ม.ค. 67 – 30 มิ.ย. 68) เปิดลงทะเบียนวันนี้ฃผ่านช่องทาง Line Official Account @tcgfirst และสำนักงานเขต บสย.