ไทยจัด “Food & Hospitality 2024” หวังท่องเที่ยวดันตลาดโต “

อินฟอร์มาฯ นำทัพจัดบิ๊กอีเวนต์ “Food & Hospitality Thailand 2024” ตั้งเป้าโตตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัว ธุรกิจโฮเรกา โรงแรม ร้านอาหาร จัดเลี้ยง กาแฟ เตรียมตบเท้าเข้าร่วมคึกคัก 21-24 ส.ค.67 ที่ศูนย์สิริกิติ์

  • ปลุกงานแสดงสินค้า “Food & Hospitality Thailand 2024”
  • ดึงนักลงทุนขยายธุรกิจโฮเรกาคึกคัก ดึงพันธมิตรจีนร่วม 2 งาน Hotel & Shop Plus และ Hotelex ชิงแชร์ตลาดโลก 3.4 แสนล้านดอลล์
  • ธุรกิจไทยผู้นำตลาดเครื่องครัว ไอศรีม ตบเท้าเข้าร่วมขยายตลาดอินเตอร์

นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2024 ผู้ประกอบการในตลาดหลักกลุ่มโฮเรกา (HoReca) ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร กาแฟ ธุรกิจจัดเลี้ยง ต่างเตรียมความพร้อมอย่างคึกคักเพื่อเข้าร่วมงานระหว่าง21-24 สิงหาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีทั้งงานจัดแสดงสินค้าแบบครบวงจร แหล่งความรู้ การนำเสนอเทรนด์ธุรกิจ กิจกรรมการประชุม สัมมนา เวิร์กชอป และอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายส่วนด้วยกัน

ปี 2567 กลุ่มธุรกิจโฮเรกาให้น้ำหนักความสำคัญการเติบโตมุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ตามข้อมูลวิจัยของ ResearchAndMarkets คาดการณ์แนวโน้มตลาดโฮเรกาทั่วโลกระหว่างปี 2567-2570 จะเติบโตมีมูลค่าสูงถึง 349,000.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในประเทศไทยจะได้รับอานิสงในส่วนการเพิ่มจำนวนและรายได้เข้าสู่การท่องเที่ยว ตามรายงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายปี 2567 จะนำเข้าต่างชาติเที่ยวเมืองไทย 35 ล้านคน สร้างรายได้ตามนโยบายรัฐบาล 3.5 ล้านล้านบาท มาจากตลาดต่างประเทศ 2.5 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท

ทางผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2024 พร้อมจะเพิ่มความสามารถธุรกิจช่วยผลักดันการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวมากขึ้น โดยใช้การจัดงานแสดงสินค้าอีเวนต์สำคัญของเอเชียในโครงการดังกล่าวเข้ามาช่วยเสริมทัพธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บาร์ ค้าปลีก ธุรกิจบริการ ทำให้กลายเป็นศูนย์รวมจุดนัดพบในห่วงโซ่การค้าระหว่าง ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจตัวจริง

ปี 2567 วางแผนขยายพื้นที่จัดงานเพิ่มเป็น 4 ฮอลล์ จากเดิมใช้เพียง 3 ฮอลล์ ในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และยังจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนนำงานมาจัดด้วยอีก 2 งาน คือ งานแรก Hotel & Shop Plus งานแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับการออกแบบตกแต่งอาคาร โรงแรม และพื้นที่เชิงพาณิชย์ใหญ่ที่สุดของจีน งานที่ 2 Hotelex งานแสดงสินค้าด้านอาหารและอุปกรณ์สำหรับธุรกิจบริการชั้นนำระดับนานาชาติ

นายวีรโชติ ตั้งกมลสุข กรรมการผู้บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เซเว่นไฟว์ ดิสทริบิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องครัวเชิงพาณิชย์ของไทยทำธุรกิจมากว่า 42 ปี ประเมินแนวโน้มปี 2567 ถึงแม้ไทยจะยังฟื้นการท่องเที่ยวไม่ได้เต็ม 100% แต่ก็เกิดการลงทุนมากขึ้นในธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม หรือศูนย์การค้า เตรียมรองรับการท่องเที่ยวกำลังทยอยกลับมาเปิดเต็มที่ ส่งผลดีกับตลาดเครื่องครัวเชิงพาณิชย์คึกคักอีกครั้ง แต่ละปีมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า5,000 ล้านบาท มาจาก ปัจจัยแรก การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ปัจจัยที่ 2 ผู้ประกอบการศึกษาหาข้อมูลถึงข้อดีของระบบครัวเชิงพาณิชย์ก่อนตัดสินใจลงทุน ตั้งแต่การวางแบบระบบ การจัดระบบ การพัฒนาบุคลากร การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ ปัจจัยที่ 3 เกิดเทรนด์เลือกใช้อุปกรณ์ครัวที่มีเทคโนโลยีเพื่อจะช่วยให้ประกอบธุรกิจง่ายและสะดวกมากขึ้น สร้างความคุ้มค่า เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนทางธุรกิจได้

ปัจจุบัน เซเว่นไฟว์ ดิสทริบิวเตอร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องครัวคุณภาพชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์ และมีสินค้ากว่า 25,000 รายการ รองรับตลาดธุรกิจกลุ่ม ร้านอาหาร โรงแรม โรงเรียน โรงงาน และครัวเรือน และอื่น มีระบบดูแลแบบครบวงจร (Solution Provider) ทั้งให้คำปรึกษา ออกแบบ ผลิต ติดตั้ง ทดสอบ ส่งมอบ ดูแลลูกค้าหลังการขาย กับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจและทำเกี่ยวกับอาหารหรือโรงแรมอยู่แล้ว

นายวีรโชติ กล่าวว่าผลดีจากการเข้าร่วมงาน Food & Hospitality Thailand เปิดโอกาสให้ได้พบลูกค้าใหม่ ๆต่อเนื่อง ได้เห็นถึงแนวโน้มตลาดจากการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับลูกค้าและผู้อยู่ในธุรกิจตัวจริง การจัดแสดงสินค้าแต่ละปียังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้งด้วย ทางบริษัทฯ วางแผนเข้าร่วมงานปี 2567 จะจัดแสดงการออกแบบครัวและอุปกรณ์ที่สามารถใช้พื้นที่ภายในครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยลดต้นทุน ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่มากในการประกอบอาหารได้หลายเมนู พร้อมกับเตรียมยกโชว์รูมไปไว้ที่งาน เพื่อให้ลูกค้าเลือกอุปกรณ์ได้ครบเต็มที่

นายสมศักดิ ยงใจยุธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-ครีม โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า เป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญธุรกิจไอศกรีมรายได้เติบโตตามการท่องเที่ยว เพราะเมื่อคนเดินทางมาเที่ยวทางโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารก็มั่นใจลงทุนเพื่อเริ่มขยายธุรกิจมากขึ้น ส่วนธุรกิจไอศกรีมในไทยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ คาดปี 2567 การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นตามลำดับ ทางบริษัททำธุรกิจมากว่า 15 ปี เป็นทั้งผู้จัดจำหน่ายเครื่องทำไอศกรีมนำเข้าแบรนด์ชั้นนำจากอิตาลีถึง 95% แล้วยังมีอุปกรณ์ วัตถุดิบทำไอศกรีม สอนทำไอศกรีม เป็นที่ปรึกษาให้ทั้งผู้เริ่มทำธุรกิจและผู้ประกอบการเดิม

การร่วมงาน Food & Hospitality Thailand มาแล้ว 11 ปี เริ่มจาก 1 บูธ ล่าสุดปีนี้เตรียมเปิดถึง 12 บูธ เพราะได้รับผลตอบรับคุ้มค่ามากกว่ายอดขายจากผู้ร่วมงาน หรือคู่ค้า ผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว และเวียดนาม -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน