ขุนคลังชี้ไทย มีการลงทุนต่ำ ชู 5 นโยบายเด็ด กระตุ้นเศรษฐกิจไทย



พิชัย รมว.คลัง ปาฐกถาพิเศษ ฝ่าพายุเศรษฐกิจไทยด้วยนโยบายการคลัง ชี้ไทยขาดการลงทุนต่อเนื่องมากว่า 20 ปี จีดีพีช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โตเฉลี่ย 1.9% ลั่นปัญหาหนี้ครัวเรือนกดจีดีพีประเทศโตต่ำ ลั่นงบประมาณบริหารประเทศมีเหลือใช้ได้น้อย ชู 5 นโยบายเด็ด เน้นช่วยดูแลเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น

วันนี้ (13 พ.ย.67) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ร่วมปาฐกถาพิเศษ Navigating Economic Challenges : The Future of Fiscal Policy ฝ่าพายุเศรษฐกิจไทยด้วยนโยบายการคลัง ว่า ในปัจจุบันสถานะของประเทศไทย ได้ขาดการลงทุนอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 20 ปีแล้ว โดยมีเม็ดเงินลงทุนแค่กว่า 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ทั้งนี้ การเกิดภาวะการลงทุนต่ำนั้นไม่ใช่เพราะไทยไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะจีดีพีประเทศมีอัตราการเติบโตที่ต่ำ โดยเฉลี่ยในช่วง 10 ปี จีดีพีโตแค่ 1.9% ต่อปีเท่านั้น

ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญที่ทำให้จีดีพีโตต่ำคือ เรื่องหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งปัจจุบันจะพบในหนี้บ้าน หนี้รถ เริ่มค้างชำระ หรือเริ่มเป็นหนี้เสียแล้ว ซึ่งเป็นสินเชื่อที่เป็นกลุ่มสุดท้าย ที่ตามหลักการแล้วคนจะปล่อยให้เป็นหนี้เสีย ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ก็มีแัญหาเรื่องหนี้เหมือนกัน ซึ่งการที่จะหาแหล่งเงินมาเสริมสภาพคล่องก็เป็นเรื่องยากอีก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนภาคธุรกิจขนาดใหญ่นั้น แม้อยู่ในภาวะการลงทุนต่ำ แต่เครื่องจักรยังทำงานอยู่ สินค้าเดิมก็ยังต้องผลิตอยู่ ในเครื่องจักรเดิม บริษัทยังทำกำไรได้ แต่บริษัทเหล่านี้นำเงินกำไรที่ได้ ไปจ่ายปันผล ไม่ได้ลงทุนเพิ่ม เพราะฉะนั้น มีสภาพคล่องเยอะ แต่ไม่ยอมลงทุน และไม่ยอมปล่อยเงินออกมาให้กู้เป็นสินเชื่อ เพราะกลัวเรื่องหนี้ครัวเรือน

“ดังนั้น เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่เศรษฐกิจไทยกินบุญเก่าไปเรื่อยๆ แม้เป็นสิ่งที่นักลงทุนชอบ เพราะอ่านเกมง่าย แต่ลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นแบบระยะสั้นเท่านั้น จึงจะเห็นว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยอยู่ขยับอยู่แค่1,600-1,700 จุดเท่านั้น ใครมาบอกว่า จะไปถึง 2,000 จุด โดยส่วนตัวมองว่า ไม่มีทาง เหตุเพราะไทยไม่มีการลงทุนใหม่ๆ ใครจะมาลงทุนระยะยาว”

ทั้งนี้ แม้ขณะนี้ประเทศไทยก็เริ่มมีการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ แล้ว อย่างเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) แต่ถ้าเทียบกับยุคคอมพิวเตอร์ กว่าที่คอมพิวเตอร์ จะเสถียรใช้งานได้ดีอย่างในทุกวันนี้ ก็ใช้เวลากว่า 50-60 ปีมาแล้ว

ดังนั้น เรื่องการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล จะเห็นผลได้ก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 40 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักลงทุน มีคำถามต่อการเลือกพื้นที่ลงทุน คือ โครงสร้างพื้นฐานของไทยยังน้อยไปหรือไม่ ต้นทุนพลังงาน-ไฟฟ้าราคาแพง ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่ไทยจะต้องดูแล

ทั้งนี้ สำหรับรัฐบาล มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย และมีระเบียบเรื่องหนี้สาธารณะ ในกรอบไม่เกิน 70% ของจีดีพี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 66-67% ต่อจีดีพีแล้ว ขณะที่ในปี 2567 คาดว่า จีดีพีจะขยายตัว 2.7% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่า19-20 ล้านล้านบาท

ส่วนหนี้สาธารณะสิ้นปี 2567 คาดว่าอยู่ที่ 65-66% ต่อจีดีพี เพราะฉะนั้นพื้นที่ทางการคลังเหลือน้อย หนี้สาธารณะเหลือเพียง 4% เท่านั้น จะเต็มกรอบ 70% หรือคิดเป็นมูลค่า จะเหลือหนี้สาธารณะที่ใช้ได้เพียง 3 ล้านล้านบาท ในตลอด 4 ปีต่อจากนี้ ซึ่งเฉลี่ยรัฐบาลจะใช้ได้ปีละ 7.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับเม็ดเงินที่รัฐบาลมีในมือ ส่วนใหญ่ก็จะใส่ไปในนโยบายที่จะช่วยในการดูแลเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.ปัญหาเรื่องพลังงานราคาสูง คือการเป็นเจ้าของพลังงาน เพื่อลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ที่สูงถึง90% ของที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศ ด้วยการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (Overlapping Claims Area : OCA) ให้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้ไทยมีพลังงานเป็นของตนเอง ใช้ได้ยาว 20 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสีเขียว

2. การเดินหน้าในเรื่องเเลนด์บริดจ์ (LandBridge) ซึ่งไม่ใช่แค่เชื่อมทะเลอ่าวไทยไปทะเลอันดามัน เรื่องนี้ยังเล็กไปประเทศไทยอาจจะต้องดูไปถึง เช่น จีนไปเอเชียกลาง-แอฟริกา เป็นต้น ก็ต้องศึกษาเรื่องระบบทางรางผ่านไทยไปเชื่อมประเทศต้างๆ 3.ระบบการจัดการน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำทะเลหนุน

4.การลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าโดยสารของขนส่งสาธารณะ โดยใช้เงินกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรืออินฟราฟันด์ ในการอุดหนุน และ 5. การกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นภาคธุรกิจที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะฉะนั้น เรื่องที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมด จะถูกบรรจุไว้ในการใช้งบประมาณของชาติ

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงมีจุดอ่อน คือในเรื่องของกระบวนการทำงาน ในแบบระบบราชการ ที่นักลงทุนจะมองว่า เป็นการทำงานที่ล่าช้า เพราะฉะนั้น จะต้องมีการปรับตัว และหันมาใช้ระบบดิจิทัลให้มากขึ้น เพื่อความสะดวกและคล่องตัวในการให้บริการที่มากขึ้น

กระทรวงการคลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลังจ่อหารือ สมาคมธนาคารไทย ผุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ สินเชื่อรถยนต์เพิ่ม