พิชัย รมว.คลัง เผยแนวทางแก้ปัญหาหนี้เสีย ลูกค้ารายย่อยในธนาคารพาณิชย์ มุ่งเป้ากลุ่มลูกหนี้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาค้างการชำระหนี้เกิน 30 – 90 วัน โดยคิดเป็นมูลหนี้ราว 1 ล้านล้านบาท
- เผยแนวทางการแก้หนี้ ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 ปี
- ให้ลูกหนี้ที่เข้าโครงการผ่อนเฉพาะเงินต้น โดยในการผ่อนเงินต้น จะให้มีระยะเวลาผ่อนที่ยาวขึ้น
- จ่อหารือ ธปท. พิจารณาผ่อนปรนเกณฑ์ LTV เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น
วันนี้ (1 พ.ย.67) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาหนี้เสีย สำหรับลูกค้ารายย่อยในธนาคารพาณิชย์ ที่มีมูลค่ารวม 1 ล้านล้านบาท โดยเสนอให้ยกเว้นดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 ปี
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นที่จะเร่งแก้หนี้ให้ลูกค้ารายย่อย ก็เพื่อให้หนี้ที่มีอยู่บรรลุวัตถุประสงค์หลัก 2 อย่าง คือ 1.หนี้ได้รับการปรับโครงสร้าง สามารถชำระได้ และ 2.เมื่อสามารถชำระได้แล้ว ก็ให้มีเส้นทาง ที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพิ่มเติม
อีกทั้งเพื่อให้บรรลุ 2 วัตถุประสงค์ ดังกล่าว กลุ่มลูกหนี้ที่เราจะเลือกเข้าสู่โครงการ คือ ลูกหนี้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหา คือที่เพิ่งค้างการชำระหนี้เกิน 30 – 90 วัน และอาจพิจารณาถึงกลุ่มลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน จนถึง 1 ปี
เนื่องด้วยเพราะเห็นว่า ยังถือเป็นลูกหนี้ที่ยังมีปัญหา แม้จะยาวไปหน่อยก็ตาม ก็ยังคิดว่าลูกหนี้กลุ่มนี้ ยังคงสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ แต่กลุ่มลูกหนี้ส่วนที่ค้างเกิน 1 ปี คงเอาไว้ก่อน ซึ่งกลุ่มที่จะแก้ก่อนนี้ คิดเป็นมูลหนี้ราว 1 ล้านล้านบาท
นายพิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้ประชาชนกลุ่มนี้ คือ 1.ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 ปี ส่วนภาระดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ไม่ต้องจ่าย จะเอามาจากไหนนั้น คิดว่าทั้งภาครัฐและภาคธนาคารต้องช่วยกัน
2. เมื่อไม่มีภาระดอกเบี้ย 3 ปี ลูกหนี้ที่เข้าโครงการก็จะให้ผ่อนเฉพาะเงินต้น โดยในการผ่อนเงินต้นนั้น ให้มีระยะเวลาการผ่อนที่ยาวขึ้น โดยเบื้องต้นขอให้จ่ายเงินต้น แค่ครึ่งหนึ่งของที่เคยจ่าย
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ลูกหนี้เหล่านี้ ยังอยู่ในฐานข้อมูลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ซึ่งการจะขอกู้ใหม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสถานะของลูกหนี้รายนั้นๆ ที่ธนาคารจะเป็นผู้พิจารณา
“เท่าที่หารือกับธนาคารพาณิชย์ มาก่อนหน้านี้ ก็มีความเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะให้ธนาคารพาณิชย์ ไปร่วมหารือกัน เพื่อหาข้อยุติต่อไป” นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังจะมีการหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้พิจารณาในการผ่อนปรนเกณฑ์ Loan to Value หรือ LTV อัตราส่วนการให้สินเชื่อ โดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน ที่ ธปท. กำหนด เพื่อให้ประชาชน มีความสามารถที่จะเข้าถึงสินเชื่อ ได้มากกว่าเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลังจ่อหารือ สมาคมธนาคารไทย ผุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ สินเชื่อรถยนต์เพิ่ม