

สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นแล้ว หลายคนมีทัศนคติเชิงบวกกับหุ้นน้องใหม่ หรือหุ้น IPO ซึ่งก็คือ หุ้นของกิจการที่เปิดเสนอซื้อขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกว่า มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดี จึงทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่พร้อมบวก เข้ามาลุยซื้อหุ้นในวันแรกที่หุ้นเข้าตลาด เพราะคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ง่ายและเร็ว
ยิ่งหุ้น IPO ของบริษัทใหญ่ มียอดจองถล่มทลายจนต้องแย่งกันจอง ทำให้มีหุ้นไม่เพียงพอกับความต้องการ ก็จะยิ่งเป็นที่หมายปองของนักลงทุน เกิดการแห่ซื้อหุ้นตัวนั้นในวันแรกที่เข้าตลาด โดยที่นักลงทุนอาจจะไม่รู้จักหุ้นตัวนั้นเสียด้วยซ้ำ ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางการลงทุนที่ไม่ถูกต้องนักเพราะไม่ใช่หุ้น IPO ทุกตัวจะสร้างความสุขให้กับนักลงทุน บางตัวเปิดมาวันแรก ราคาต่ำจองก็มี หรือซื้อปุ๊บติดดอย ก็มีให้เห็นมาแล้วหลายตัว
SET investnow แหล่งรวบรวมความรู้เรื่องการลงทุน จะมาบอกเคล็ดลับให้กับนักลงทุนในการเลือกลงทุนหุ้น IPO เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งจริงแล้ว อาศัยพื้นฐานที่ไม่แตกต่างกับการลงทุนหุ้นทั่วไปที่ซื้อขายในตลาดหุ้น นั่นคือ การทำความรู้จักในหุ้นตัวนั้นให้ดีเสียก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าจองซื้อหุ้น IPO แบบไม่รู้อะไรเลยเด็ดขาดเริ่มจาก
1.ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน นักลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลหุ้น IPO ก่อนลงทุนได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต., หนังสือชี้ชวน, ข้อมูลกิจการจากเว็บไซต์ของบริษัท, ตลาดหลักทรัพย์ฯ และข่าวสารต่างๆ
2.วิเคราะห์ธุรกิจและการแข่งขัน รู้จักว่าบริษัททำธุรกิจ และอยู่ในอุตสาหกรรมอะไร มีคู่แข่งเป็นใครบ้าง และอนาคตของธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างไร น่าสนใจต่อการลงทุนหรือไม่
3.อ่านงบการเงิน จะเป็นตัวบอกสุขภาพการเงินของกิจการ และช่วยประเมินได้ด้วยว่า หุ้นตัวนี้มีโอกาสเป็น หุ้นปันผลในอนาคตหรือไม่ โดยหุ้นที่เข้าข่ายนี้ มักจะมีผลการดำเนินงานที่โตแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงการลงทุนก็เป็นเพียงขยายตามอุตสาหกรรม และอัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก
4.ดูแผนงานในอนาคต บริษัทจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปใช้ทำอะไร เช่น ใช้ขยายกิจการ, ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทำให้เราเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
และ 5.ราคาหุ้น IPO เหมาะสมหรือไม่ เมื่อเทียบกับมูลค่ากิจการ ซึ่งมีวิธีดูหลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและข้อมูลที่มี โดยใช้อัตราส่วนทางการเงินมาช่วยวิเคราะห์ได้ เช่น ราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) เพื่อประมาณการจุดคุ้มทุน, ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV), อัตราการจ่ายปันผล เป็นต้น
นักลงทุนจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะทุกการลงทุนนั้น มีความเสี่ยง แต่การลงทุนแบบไม่รู้อะไรเลยนั้น เสี่ยงและอันตรายยิ่งกว่า
สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่สนใจ อยากเรียนรู้เทคนิคการอ่านงบการเงินแบบง่ายๆ สามารถเข้าไปเรียนรู้ผ่าน e-Learning กับหลักสูตร “Financial Statement Analysis” ได้ฟรี ตามลิงก์นี้เลย https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/363/info
คุณนายพารวย