จุลพันธ์ เผยยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสิน เศรษฐา พ้นเก้าอี้นายกฯ รับโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต มีแววสะดุด ติดขัดในบ้างส่วน ถือเป็นเรื่องปกติ ลั่นตอนนี้ต้องรอมติทางพรรคเพื่อไทยก่อน ยังไม่ทราบว่า จากนี้รูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะเป็นอย่างไร
- เชื่อการตั้งรัฐบาลใหม่ ก็ต้องมีพรรคเพื่อไทย อยู่ในพรรคร่วม
- เผยกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ น่าจะไม่นาน คาดว่าไม่เกิด 1-2 สัปดาห์ ได้เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
- รับกรณีนายเศรษฐา มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน-นักลงทุน ทำการจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ส.ค.67) เมื่อเวลา 15.45 น. ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมช.คลัง เปิดเผยถึงกรณี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัย ว่าความเป็นรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ว่า ตามกฎหมายก็ต้องยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดย วันนี้ตนกำลังจะเดินทางกลับไปสภา และยุติการปฏิบัติงานที่กระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ในด้านกลไกต่างๆ ก็ต้องเดินหน้าต่อ ทางสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ก็ต้องดำเนินการประชุมกัน เพื่อเลือกผู้นำฝ่ายบริหาร หรือนายกรัฐมนตรี ต่อไป โดยเริ่มตั้งดำเนินการตั้งแต่ ตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพื่อมาดำเนินงานบริหารประเทศต่อ ก็เป็นไปตามข้อกฎหมาย
นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ในส่วนขอโครงการที่ยังคงค้างอยู่ ต้องมีผลกระทบแน่นอน ยังไม่ผ่านกระบวนการอนุมัติ ก็อาจจะมีสะดุดติดขัดในบ้างส่วน เป็นเรื่องปกติ
ขณะที่กระบวนการหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้วเสร็จ ก็จะเป็นกระบวนการ แถลงนโยบายของ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งต้องไปดูว่า นโยบายที่จะนำไปแถลงต่อรัฐสภามีในเรื่องอะไรบ้าง
สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่คาดว่า จะเริ่มใช้จ่ายช่วงไตรมาส 4 ปี 67 ทันหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โครงการนี้ก็คงต้องสะดุดแน่ๆ และตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะไม่รู้จะได้กลับมาทำต่อหรือไม่
ส่วนพรรคเพื่อไทย จะสานต่อโครงการดิจิทัล วอลเล็ต หรือไม่ ตอนนี้คงต้องรอมติของทางพรรคเพื่อไทยก่อน เพราะยังไม่ทราบว่า หลังจากนี้รูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะเป็นอย่างไร พรรคใดจะเข้าร่วมรัฐบาลบ้าง ซึ่งเวลานี้ยังไม่สมารถตอบได้
“จากนี้คงต้องมีการหารือภายในพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะดำเนินนโยบายใดต่อบ้าง ซึ่งในการตั้งรัฐบาล ก็ต้องมีพรรคเพื่อไทยอยู่ในพรรคร่วมด้วย ส่วนตัวมองว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ น่าจะไม่นาน เพราะรัฐสภายังทำหน้าที่อยู่ คาดว่าไม่เกิด 1-2 สัปดาห์ ก็จะได้เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจจากนี้ แน่นอนว่า กรณีของนายเศรษฐา จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง โดยขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีมากนั้น ประกอบกับเรื่องของการเมืองที่มีความไม่แน่นอน ก็ทำให้เกิดผลกระทบในทางลบ
รวมถึงทำให้การหมุนของเศรษฐกิจชะลอไประยะหนึ่ง แต่สุดท้ายการเมืองไม่ได้ถึงทางตัน ก็จะต้องกลับมาเดินต่อ และเมื่อมีความชัดเจนแล้ว ก็เชื่อว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลาย กลับมาปกติ
นอกจากนี้ ในส่วนเรื่องความเห็นว่า จะเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะพับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ลงไปเลยหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาล ยังไม่มีความคิดในลักษณะนี้ ตอนนี้ขออย่าเพิ่งคิดล่วงหน้ากันไปก่อน
อย่างไรก็ตาม การทำงานของตน ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตนก็ได้ทำอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาของประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถแก้ไขได้ในข้ามคืน อาจจะยังมีเรื่องคงค้างอยู่ และมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาตลอด เช่น ปัญหาสินค้าจีน เป็นการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีจากนี้ก็ตาม ก็ต้องมีการปรับนโนบาย ปรับตัว ในก้าวทันโลก ที่ไม่หยุดหมุน