“ธนวรรธน์” ชี้เศรษฐกิจไทยโตถึง 3% รอดูดิจิทัล วอลเล็ต จะเริ่มใช้เมื่อใด

“อ.ธนวรรธน์” ประเมินเศษฐกิจไทยปีนี้ มีโอกาสโตได้ถึง 3% ชี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะสามารถใช้นโยบายการคลัง-งบประมาณ ได้รวดเร็วหรือไม่ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเริ่มใช้จริงได้เมื่อใด

  • เผยมีโอกาสเดินทางไปจีน ยังพบกำลังซื้อตามหัวเมืองใหญ่ โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวเป็นลำดับ
  • ชี้นโยบายวีซ่าฟรีไทย-จีน จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้นักท่องเที่ยวจีน เดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น
  • คาดสหรัฐฯ จะเริ่มลดดอกเบี้ยประมาณเดือน มิ.ย. โดยคาดว่าจะลดลง 3 ครั้งโดยประมาณ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยหลังได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีการใช้นโยบายทางการคลัง โดยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมถึงมีการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศจีนในปีที่ผ่านมา เติบโตที่ 5.2% เดิมมีหลายฝ่ายประเมินไว้ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่4.5%

ทั้งนี้ สำหรับปี 67 นี้ประเมินไว้ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ 4.5% โดยทางการจีนได้ออกมาระบุชัดเจนว่า จีนตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ที่ 5% รวมถึงจะมุ่งเน้นการใช้นโยบายการเงินกับการคลังควบคู่กันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดอัตราเงินสดสำรองทางกฎหมาของประเทศจีน ที่จากเดิมอยู่ที่ 11% ให้เหลือ 10% ภายใน 1 ปี ซึ่งก็จะมีผลทำให้มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้ามาในระบบเศรษฐกิจจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนั้น ในปีนี้ทางการจีนยังมีแผนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในหลายส่วน อาทิ ลดดอกเบี้ย ในรูปแบบดอกเบี้ย 5 ปี ลดลง 0.3% และมีแนวโน้มจะลดลงไปอีก ดังนั้นทิศทางของเศรษฐกิจจีนปีนี้ น่าจะเติบโตถึงที่ 5% กำลังซื้อภายในประเทศไทยมีการฟื้นตัวขึ้น

นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า การที่ได้เดินทางมาเห็นบรรยากาศภายในประเทศจีนครั้งนี้ ได้เห็นกำลังซื้อตามหัวเมืองใหญ่ โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวเป็นลำดับ เพราะการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใน และการที่ภาคการส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงทิศทางการส่งออกของไทย ภาคการส่งออกมีการขยายตัวต่อเนื่องมา 5-6 เดือนต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การที่ปีนี้เศรษฐกิจของจีนจะเติบโตได้ตามเป้า ก็น่าจะมีผลทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้ ได้มีการเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเป็นอันดับ 1 แซงหน้ามาเลเซียแล้ว โดยหลังจากที่ปี 65 นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเป็นอันดับ 1 ในการมาเที่ยวไทย

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในปี 66 มีเข้าไทยมาที่ 4 ล้านกว่าคน แต่ปี 67 ดูสัญญาณจากการที่เข้ามาแล้วคาดว่าน่าจะอยู่ที่กว่า 5-6 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังสำคัญ สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเอง

“การมีนโยบายวีซ่าฟรีระหว่างไทย-จีน น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้น”

ทั้งนี้ สัญญาณการท่องเที่ยวของทั้งคนจีน เริ่มมีอัตราการใช้จ่ายต่อหัวที่มาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น ในปี 66 มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยเฉลี่ยเที่ยว 9 วัน มีการใช้จ่ายต่อหัวที่ 42,000 บาทต่อคน แต่ในปีนี้คาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 46,000 บาทต่อคน ซึ่งก็คาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีน จะมาเที่ยวไทยที่ 5-6 ล้านคน น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดที่เข้ามาในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างน้อย 200,000 – 250,000 ล้านบาท

อีกทั้งเมื่อเศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตแบบคงที่แล้ว ประเทศไทยน่าจะได้รับอานิสงส์การส่งออกสินค้ามาประเทศจีนก็น่าจะเติบโตได้ มีมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยมาจีนอย่างน้อยประมาณ 1 ล้านล้านบาท

โดยสินค้าหลักที่ไทยส่งออกมาจะเป็นกลุ่มผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และผลิตภัณฑ์พารา ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยด้วยนั้น โดยเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างคงเส้นคงวา และเริ่มใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยแบบผ่อนคลายเป็นตัวนำ คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มลดดอกเบี้ยประมาณเดือน มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะลดลง 3 ครั้งโดยประมาณ

ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้จะเติบโตได้ 2.3-2.5% และคาดว่าผ่านการเลือกตั้งที่สหรัฐฯ ช่วงปลายปี เศรษฐกิจของสหรัฐฯ น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น โดยบรรยากาศที่ทั้งประเทศจีน และสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในของประเทศญี่ปุ่นช่วงไตรมาส 2 เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวขึ้น โดยธนาคารกลางของญี่ปุ่น ก็มีกลยุทธ์จะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยกับมาเป็นบวก ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปี ซึ่งก็จะมีผลทำให้ทิศทางหลักของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นในช่วงของไตรมาสที่ 3 ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งก็มีผลทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตตามไปด้วย

“ปีนี้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสลุ้นการเติบโตได้ที่ 3% ซึ่งก็มีหลายฝั่งประเมินไว้ว่า จะเติบได้ที่ 2.6% ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสามารถใช้นโยบายทางการคลังหรืองบประมาณ จะใช้ได้รวดเร็วหรือไม่ในช่วงเดือน เม.ย. นี้ รวมถึงต้องจับตามองว่าโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท จะเริ่มใช้จริงได้เมื่อใด” นายธนวรรธน์ กล่าว