“กุลยา” อธิบดีกรมสรรพากร เผยได้ส่งอีเมล์ตรงถึง แพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ เทมู แล้ว ชี้ปัจจุบัน เทมู ยังไม่เข้าข่ายตามกฎหมายการจดทะเบียน เป็นผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีแวต ในไทย
- เหตุเป็นแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ ที่ขายสินค้าจากต่างประเทศ โดยตรง
- ไม่มีผู้ประกอบการคนไทย เข้าไปเป็นสื่อกลางในการใช้บริการ หรือเปิดร้าน
- ชี้สินค้าที่นำเข้ามาจากเทมู มีการจัดเก็บแวตที่ 7% ตามการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม สินค้านำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท อยู่แล้ว
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง มอบนโยบาย เรื่องการประสานงานกับแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ เทมู (Temu) ของประเทศจีน เพื่อแนะนำการเข้าร่วมจดทะเบียนระบบภาษีในประเทศไทย ว่า ขณะนี้กรมสรรพากรได้ดำเนินการติดต่อไปยัง บริษัทเทมูแล้ว โดยการส่งอีเมล์ ซึ่งเป็นการแนะนำให้เข้ามาจดทะเบียน เป็นผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายไทยเท่านั้น
น.ส.กุลยา กล่าวว่า ปัจจุบัน สถานะของเทมู ยังไม่เข้าข่ายตามกฎหมายการจดทะเบียน เป็นผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ในประเทศไทย เพราะฉะนั้น ทำให้ไม่สามารถบังคับให้เขา มาจดทะเบียนแวตได้
“Temu เป็นแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ ที่ขายสินค้าจากต่างประเทศ โดยตรง ที่ไม่มีผู้ประกอบการคนไทย เข้าไปเป็นสื่อกลางในการใช้บริการ หรือเปิดร้าน ซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ดังนั้นทางเทมู จึงยังไม่เข้าข่ายผู้ต้องเสียภาษีในประเทศไทย คือ ภาษีแวต ที่เรียกเก็บจากแพลตฟอร์มต่างชาติ หรือ VES : VAT for Electronic Service ไม่เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มีผู้ประกอบการไทย เข้าไปใช้บริการ ทางแพลตฟอร์ม จึงต้องจ่ายแวตเข้ามาที่สรรพากร” น.ส.กุลยา กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าที่นำเข้ามาจากเทมู ก็จะมีการจัดเก็บแวตที่ 7% ตามการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม สินค้านำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท จากผู้นำเข้า หรือลูกค้าทั่วไปตามปกติอยู่แล้ว ส่วนอนาคตถ้ามีนโยบายให้ทางกรมสรรพากร เข้าไปดำเนินงาน เรื่องภาษีกับแพลตฟอร์มเทมู ทางกรมสรรพากร ก็พร้อมประสานงาน และดำเนินงานอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลูกจ้างรู้ยัง? สรรพากร ยกเว้นภาษี เงินค่าชดเชยถูกเลิกจ้าง