ผลิตภัณฑ์นมยื่นเรื่องขอปรับขึ้นราคาแล้ว 6 ราย



ผลิตภัณฑ์นมยื่นเรื่องขอปรับขึ้นราคา 6 ราย ด้านกรมการค้าภายในชี้อยู่ระหว่างพิจารณา-วิเคราะห์ต้นทุน

  • เผยไม่เกิน 15 วันรู้ผล แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ไฟเขียวรายใดขึ้นราคา
  • นมเปรี้ยว-โยเกิร์ตเป็นสินค้าทางเลือกไม่ต้องขออนุญาต

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการพิจารณาปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ทั้งนมพลาสเจอไรส์ นมยูเอชที นมสเตอริไลซ์ ยื่นขอปรับขึ้นราคามายังกรมแล้ว 5-6 รายจากก่อนหน้านี้ ยื่นมาแล้ว 2 ราย ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสาร หลักฐาน และวิเคราะห์ต้นทุน รวมถึงราคาที่เหมาะสม จะใช้เวลาพิจารณา 15 วันหลังจากยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว โดยยืนยันว่า ให้พิจารณาให้ปรับขึ้นจากเหตุต้นทุนน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่รวมถึงต้นทุนอื่นตามที่เอกชนเคยขอมา เช่น ต้นทุนค่าไฟฟ้า เป็นต้นซึ่งปัจจุบัน ต้นทุนน้ำนมโคดิบที่คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ประกาศปรับขึ้น อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 22.75 บาท จากเดิมกก.ละ 20.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น กก.2.25 บาท

“ขณะนี้กรมยังไม่ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใดปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นม ซึ่งเกณฑ์การพิจารณายังยึดเรื่องต้นทุนน้ำนมดิบเท่านั้น ต้นทุนอื่นไม่ได้พิจารณาร่วม และแต่ละผลิตภัณฑ์ จะขึ้นราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนการใช้ถ้าเป็นนมรสจืด จะได้น้ำนมดิบ 100% จะขึ้นราคามากกว่า แต่ถ้าเป็นนมปรุงแต่ง มีส่วนผสมอื่นก็จะขึ้นตามสัดส่วนการใช้นมดิบ แต่ถ้าใครใช้นมผมจะไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงนมเปรี้ยว และโยเกิร์ตด้วย ซึ่งเป็นสินค้าทางเลือก ไม่ต้องขออนุญาต”

สำหรับขั้นตอนหลังจากผู้ประกอบการได้ยื่นขอขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมมาแล้วนั้น จะต้องแสดงให้เห็นถึงข้อมูลเอกสารสำคัญใช้ประกอบการขอขึ้นราคา ได้แก่ เอกสารเกี่ยวกับการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ในอัตราที่มีการปรับขึ้นใหม่แล้วที่ กก.ละ 22.75 บาท และข้อมูลเกี่ยวกับสูตรการผลิต ที่มีสัดส่วนการใช้น้ำนมดิบในการผลิตสินค้านมกล่องหรือนมขวดของประเภทนั้นๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งยืนยันว่าราคาขายปลีกผลิตภัณฑ์นม แต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ จะปรับขึ้นไม่เท่ากัน เพราะแต่ละชนิดใช้น้ำนมดิบไม่เท่ากัน รวมถึงหากเป็นสต็อกการผลิตเก่าที่เป็นต้นทุนเดิมก็จะต้องขายตามราคาเดิมต่อไปด้วย

ร.ต.จักรา กล่าวว่า การดูแลราคาและปริมาณสินค้านั้น ขณะนี้กรมได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องโดยยึดแนวทางให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ค้าขายด้วยความเป็นธรรม โดยจากการติดตามสถานการณ์ตามห้างค้าส่ง ค้าปลีก มีสินค้าทุกประเภทเพียงพอ และการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาหารสดอาหารสำเร็จรูป วัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร เช่น ซอสปรุงรส ข้าวสารถุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจำวัน เครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับความนิยม ขนาด 180-225 มิลลิตร ขอขึ้นราคาที่ 0.25-0.50 บาท ส่วนขนาดใหญ่เกิน 1 ลิตร อาจขึ้นราคาเกิน 2 บาท