กระทรวงการคลัง โดย 9 หน่วยงาน และ 7 สหกรณ์ในสังกัด ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ลงนามความร่วมมือ “โครงการสินเชื่อรวม หนี้ข้าราชการ ยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง” มุ่งช่วยเหลือข้าราชการ กลุ่มเปราะบาง ลดภาระทางการเงิน มัดรวม หนี้ข้าราชการ ทุกประเภทหนี้ไว้ที่กรุงไทย ชูดอกเบี้ยต่ำคงที่ตลอดสัญญา ขยายเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึงอายุ 80 ปี
- เผยคลัง มีข้าราชการในสังกัด รวมราว 36,000 คน พบปัญหาของข้าราชการกลุ่มเปราะบาง คือมีเจ้าหนี้มากกว่า 1 ราย ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้
- ด้านกรุงไทยเผย เตรียมวงเงินโครงการนี้ไว้ 50,000 ล้านบาท คาดจะช่วยเหลือข้าราชการได้ประมาณ 50,000 คน
- ลั่นพร้อมขยายวงเงินตามความจำเป็น โดยปัจจุบันธนาคาร ยังมีวงเงินสนับสนุนสหกรณ์ ทั้งระบบอยู่ถึงเกือบ 140,000 ล้านบาท
วันนี้ (5 ส.ค.67) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายในงาน “โครงการรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง” โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือในพิธี ว่า รัฐบาลโดยนโยบายของนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกกลุ่ม
โดยขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือแก้ไขปัญหาหนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือข้าราชการเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ที่มีภาระหนี้สูง เงินเดือนถูกหักเงินไปใช้หนี้จนเกือบหมด มีเหลือใช้ในแต่ละเดือนไม่ถึง 30% ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทำให้ต้องไปกู้เพิ่มเพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนมีหนี้อยู่หลายแห่ง กระจัดกระจาย และอยู่ในวงจรหนี้ไม่จบไม่สิ้น
ทังนี้ ปัจจุบันกระทรวงการคลัง มีข้าราชการภายใต้หน่วยงานในสังกัด รวมจำนวนราว 36,000 คน ซึ่งปัญหาของข้าราชการกลุ่มเปราะบาง คือ มีเจ้าหนี้มากกว่า 1 ราย ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ มีเงินเดือนเหลือไม่พอต่อการดำรงชีพ ภายใต้ความร่วมมือใน “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง” จะช่วยให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงการคลัง สามารถรวมหนี้ทุกประเภทมาไว้ที่ธนาคารกรุงไทยที่เดียว โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ตลอดอายุสัญญา และมีระยะผ่อนชำระยาวขึ้น ทำให้มีเงินได้รายเดือนคงเหลือ พอต่อการดำรงชีพ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายลวรณ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการแบบนี้ ถือว่าเป็นทางเลือกที่จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องหนี้ ของข้าราชการได้อย่างยั่งยืน ซึ่งส่วนราชการอื่นๆ ก็สามารถนำโมเดลนี้ไปใช้ได้ ทั้งนี้ ภายใต้โมเดลนี้ ข้าราชการรายนั้น จะต้องไม่มีการสร้างหนี้เพิ่มเติม ยกเว้นแต่ว่า ข้าราชการรายนั้นจะมีเงินเดือนเหลือเกิน 30% ซึ่งก็จะสามารถยื่นขอกู้เพิ่มเติมได้ แต่คิดแล้วต้องไม่ให้เงินเหลือต่ำกว่า 30% ของเงินเดือน
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลังอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาหนี้ข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ที่มีเงินเดือนเหลือหลังหักภาระหนี้ไม่ถึง 30% ผ่าน “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง”
ซึ่งนับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ ในการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับข้าราชการสังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจประเทศ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสภาพคล่องเหลือเพียงพอในการดำรงชีพ และสามารถปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง สำหรับข้าราชการที่ในอนาคต จะมีสิทธิได้รับหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอด จากกรมบัญชีกลางเมื่อเกษียณอายุ และมีสิทธิจะได้รับบำนาญรายเดือนหลังเกษียณอายุโดยสามารถรวมหนี้รายย่อยทุกประเภท ทั้งสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ จากทั้งธนาคารกรุงไทยและสถาบันการเงินอื่นๆ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งสินเชื่อบ้าน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) และสินเชื่อบ้านแลกเงิน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา (อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา 4.49% ต่อปี โดยคำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญาสูงสุด 40 ปี ผ่อนชำระ 4,700 บาท/เดือน) โดยได้รับยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน
2. สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
โดยโครงการนี้ฯ เป็นการขยายความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหนี้ข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ภายใต้ “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” ที่ธนาคารกรุงไทยได้ออกแบบ เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งหลายเรื่อง เป็นปัญหาที่หมักหมมเป็นเวลานาน ตอบโจทย์การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศที่อยู่ในระดับสูง 90.8% ต่อ GDP ซึ่งยังไม่รวมถึงหนี้นอกระบบ เพื่อให้การช่วยเหลือข้าราชการได้อย่างตรงจุด สามารถแก้ไขปัญหาในระยะสั้น และระยะยาวได้
โดยใน 3 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารจับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินสายไปแล้วกว่า 10 จังหวัด มีความร่วมมือกับสหกรณ์กว่า 550 แห่ง มีลูกค้าข้าราชการสนใจติดต่อเข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 คน โดยมียอดหนี้เฉลี่ย 1.64 ล้านบาทต่อคน และเตรียมความพร้อม ในการขยายความร่วมมือกับสหกรณ์ทั่วประเทศต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เบื้องต้นธนาคารได้เตรียมวงเงินสำหรับโครงการนี้ไว้ 50,000 ล้านบาท คาดว่า จะช่วยเหลือข้าราชการได้ประมาณ 50,000 คน และพร้อมขยายวงเงินตามความจำเป็น โดยปัจจุบันธนาคาร ยังมีวงเงินสนับสนุนสหกรณ์ทั้งระบบอยู่ถึงเกือบ 140,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันข้าราชการทั้งประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 3 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ มีภาระหนี้รวมกันกันราว 3 ล้านล้านบาท และในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่ง คือ 1.4 ล้านล้านบาท เป็นหนี้ในส่วนของข้าราชการครู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “กรุงไทย” กำไรสุทธิไตรมาส 2 ทะลุ 11,000 ล้านบาท เดินหน้าช่วยลูกค้าแก้หนี้
