

เปิดผลสำรวจ “นอร์ทกรุงเทพโพล” พบประชาชน เทเสียงย้าย ท่าเรือคลองเตย ออกจากพื้นที่เดิม เชื่อการนำที่ดินกว่า2.3 พันไร่ ของ ท่าเรือคลองเตย มาพัฒนาให้เกิดโยชน์สูงสุด ได้ในหลายด้าน
ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากกรณีการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) นั้น ขณะนี้ กระแสสังคมได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กันเป็นจำนวนมาก จากก่อนหน้านี้ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม, การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.), กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ ในการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย)
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้หาแนวทาง ในการพัฒนาบริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ของ กทท. ที่มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,353 ไร่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) นั้น เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ลดปัญหาความแออัดของชุมชน, แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด, แก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์แบบครบวงจร ซึ่งรวมถึงการย้ายคลัง และโรงเก็บน้ำมัน ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
ผศ.ดร.สานิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางนอร์ทกรุงเทพโพล ได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22 – 30 กรกฎาคม 2567 จากประชาชนจำนวน 2,500 คน ในเรื่องการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) พบว่า ประชาชนกว่า 70.3% ทราบถึงโครงการการย้ายท่าเรือคลองเตย และมีเพียง 29.7% ที่ไม่ทราบเรื่อง
โดยการสำรวจ ระบุว่า มีประชาชนส่วนใหญ่ 70.7% เห็นด้วย ต่อการย้ายท่าเรือกรุงเทพ ขณะที่ ไม่เห็นด้วย 16.2% และไม่แสดงความคิดเห็น 13.1%
ทั้งนี้ จากการสำรวจ เมื่อถามคิดเห็นถึงการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) จะทำให้เกิดประโยชน์ที่ดิน ในพื้นที่เดิมอย่างไร ผลสำรวจ พบว่า ประชาชน 40.2% ระบุว่า จะสามารถผสมผสาน การใช้ประโยชน์ในหลายๆ ด้าน
ขณะที่ ใช้ในเรื่องอื่น ๆ 18.4%, ใช้เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้ด้อยโอกาส 16.7%, ใช้เป็นสวนสาธารณะ 11.3%, ใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 10.2% และใช้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3.2%

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงช่องทางในการทราบ โครงการการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) พบว่า ส่วนใหญ่ 34.9% รับทราบจากช่องทางอื่นๆ นอกเหนือจากการรับทราบ แผนการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) จาก อินเตอร์เน็ต เว็ปไซต์ 24%
ขณะที่ 14.2% ระบุว่า รับทราบข้อมูลจากแผ่นพับ โปสเตอร์ เอกสารประชาสัมพันธ์ ส่วน 12.4% ระบุว่า รับทราบข้อมูลจากวิทยุ โทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี นอกจากนี้ 9.3% ระบุว่า รับทราบข้อมูลจากสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ วารสาร และ5.2% รับทราบข้อมูลจากเอกสารเผยแพร่จากทางราชการ
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กทท. จี้ผู้รับเหมาเร่งงานถมทะเลสร้างแหลมฉบังเฟส 3