

จุลพันธ์ เผยแผนนโยบายเงินดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท ยึดตามเดิม ไม่มีการปรับลดวงเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ลั่นรัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องการออกพ.ร.บ.กู้เงิน ยอมรับตอนนี้เวลาการทำโครงการเริ่มตึง เพราะเริ่มเข้าใกล้เดือน พ.ค.ไปทุกที
- ชี้จากกระแสข่าวว่ารัฐจะเลื่อนโครงการไป เพื่อรอใช้งบปี 68 ก็ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน
- เผยความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ขณะนี้ ก.คลัง ยกร่างเบื้องต้นแล้ว ส่วนเรื่องขั้นตอนที่ต้องเข้าสภานั้น
- รวมไปถึงการส่งไปขั้นวุฒิสภาไม่ได้เป็นกังวล ถ้าร่างเสร็จทันก็สามารถเข้าสู่ที่ประชุมสภาที่เปิดประชุมอยู่ได้ทันที
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ในวันนี้ (16 ม.ค.67) มีการเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากว่า ทางคณะกรรมการ ได้รับทราบว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต มายังรัฐบาล ดังนั้นทางคณะกรรมการจึงได้ลงความเห็นว่าให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน เพื่อรอเอกสารความเห็นให้ครบทุกด้านก่อน ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีการกำหนดวัดนัดประชุมใหม่
นอกจากนี้ ที่มีกระแสข่าวเรื่องว่ารัฐบาลจะปรับลดวงเงินกู้โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ลงจาก 500,000 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว และยังคงที่กรอบวงเงินกู้ที่ 500,000 ล้านบาทเช่นเดิม ส่วนกระแสเรื่องที่ว่ารัฐบาลจะเลื่อนโครงการออกไปเพื่อรอใช้งบประมาณปี 2568 ก็ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยขอยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แน่นอน
“ยอมรับว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงินมีความเสี่ยง และรัฐบาลเองก็มีทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเป็นการออกเป็นพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. ก็อยู่ในอำนาจที่ทำได้ ขณะที่ก็รองบประมาณก็ทำได้ แต่ขณะนี้ทางคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ดังนั้นจึงยังคงเดินหน้า พ.ร.บ.กู้เงินต่อไป และยอมรับว่าตอนนี้เวลาการทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ตเริ่มตึง เพราะเริ่มเข้าใกล้เดือน พ.ค.เข้าไปทุกที แต่รัฐบาลยังคงยืนยันจะทำให้ทันตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ คือเริ่มโครงการ พ.ค.67 นี้” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท ขณะนี้กระทรวงการคลังยกร่างเบื้องต้นแล้ว ส่วนเรื่องขั้นตอนที่ต้องเข้าสภานั้น ได้แก่การพิจารณาหลักการ ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษา และรับร่าง พ.ร.บ. รวมไปถึง การส่งไปถึงขั้นวุฒิสภา ไม่ได้เป็นขั้นตอนที่น่ากังวล ถ้าร่างแล้วเสร็จทัน ก็สามารถเข้าสู่ที่ประชุมสภาที่กำลังเปิดสมัยประชุมอยู่ได้ทันที หรือหากไม่ทันก็สามารถขอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนเรื่องจะตีความว่าเศรษฐกิจวิกฤตหรือไม่วิกฤตนั้น เป็นเรื่องสำคัญ ที่มีหลากหลายมุมมอง ทุกฝ่ายสามารถมองแตกต่างกันได้ ทั้งนี้ รัฐบาลเองก็ต้องทำหน้าที่ชี้แจ้งให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้อง ออก พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าว โดยมี 3 เรื่อสำคัญคือ เรื่องเงินเฟ้อ การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย และโครงสร้างของเศรษฐกิจ