

ศุลกากรจัดพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว ชี้เป็น สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดเครื่องหมายการค้า กว่า 1,093,000 ชิ้น พร้อมจัดการส่งมอบของกลางสารทำความเย็น ประเภทสารฟลูออโรคาร์บอน ไปทำลายทิ้ง มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 39 ล้านบาท
- กำชับให้เจ้าหน้าที่ เข้มงวดกวดขัน ป้องกันปราบปราม ผู้กระทำความผิดในการลักลอบ หลีกเลี่ยงนำเข้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
- จากนี้เน้นให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ) เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และไปในทิศทางเดียวกัน
- เผยของกลางประเภทสารฟลูออโรคาร์บอน จะ ไปทำลายด้วยวิธีการเผา โดยใช้เตาเผาแบบ Fluidized Bed ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ
วันนี้ (16 ก.ค.67) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธานในพิธีทำลายของกลาง ที่คดีถึงที่สุดแล้วและพิธีส่งมอบของกลาง สารทำความเย็นที่คดีถึงที่สุดแล้วไปทำลาย โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 39 ล้านบาท โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร ร่วมในพิธีดังกล่าว ณ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมตรี และ รมว. มีนโยบายให้กรมศุลกากร ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปราม การลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อรักษากลไกทางการตลาด รวมถึงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
“ที่ผ่านมา อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดกวดขัน ป้องกันและปราบปราม ผู้กระทำความผิดในการลักลอบ หลีกเลี่ยงนำเข้าสินค้าดังกล่าว อีกทั้ง ยังเน้นให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า จากการทุ่มเททำงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ทำให้วันนี้กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้รวบรวมของกลางในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ เช่น บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า รวมไปถึงของกลางที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สารทำความเย็น หรือสารฟลูออโรคาร์บอน (FCs) ที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และอื่น ๆ โดยรวมของกลางทั้งสิ้น 1,093,000 ชิ้น และของกลางสารทำความเย็น 4,500 ถัง คิดเป็นมูลค่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 39 ล้านบาท
ด้าน นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการ ทางคดีได้ถึงที่สุด และของกลางตกเป็นของแผ่นดิน ตามกฎหมายแล้ว กรมศุลกากร มีกำหนดการนำของกลาง ดังกล่าวทั้งหมด ไปทำลาย โดยใช้วิธีการเผาทำลาย ณ โรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้า เพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของ บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และทุบทำลายโดยใช้รถบด ณ บริษัท โกลเด้นดีพ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 16 – 17 ก.ค.67 นี้
นอกจากนี้ สำหรับของกลางประเภทสารฟลูออโรคาร์บอน (FCs) นั้น กรมศุลกากร มีกำหนดการนำของกลางดังกล่าว ไปทำลายด้วยวิธีการเผา โดยใช้เตาเผาแบบ Fluidized Bed ณ บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กซ์ จำกัด (BPEC) ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด (WMS) โดยมีกำหนดทยอยส่งมอบ สารฟลูออโรคาร์บอน (FCs) ไปทำลายในช่วงปลายเดือน ก.ค.67 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะกำกับดูแลการทำลายของกลางดังกล่าวต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ศุลกากร” มั่นใจ 3 เดือนที่เหลือปีงบ 67 จัดเก็บรายได้ทะลุ 3 พันล้าน