คลัง เผยแบงก์รัฐตั้งสำรองหนี้เสียพุ่ง 263%

คลัง เผยแบงก์รัฐตั้งสำรองหนี้เสียพุ่ง 263% เหตุมาตรฐานบัญชีใหม่ -สนองนโยบายรัฐบาลพักหนี้เกษตรกระและแก้หนี้ทั้งระบบ

  • ปล่อยสินเชื่อรวมกันที่ 5.95 ล้านล้านบาท
  • กำไรรวมกัน 40,000 ล้านบาท
  • เกาะติดแบงก์รัฐแจกโบนัสพนักงาน

ผู้สื่อข่าวรางายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ว่า ในปีงบประมาณ2566 ที่ผ่านมา สถาบันการเงินของรัฐ 7 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)​ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)มีกำไรรวมกัน 49,000 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งการปล่อยสินเชื่อ เงินฝาก

ส่วนยอดหนี้เสียปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลยอดการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญปรับเพิ่มขึ้น  มาอยู่ที่ 263% ของหนี้เสีย โดยหนี้เสียอยู่ที่ 294,000 ล้านบาท ขณะที่ ปีงบระมาณ2565 ยอดกันสำรองหนี้เสียอยู่ 194%แต่ก็ยังต่ำกว่ายอดกันสำรองหนี้เสียปีงบประมาณ2564 เนื่องจากเป็นช่วงวิกฤตโควิด-19  สำหรับสาเหตุของการกันสำรองไว้สูงนอกจากมีการใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่แล้วที่ต้องกันสำรองไว้ 100%แล้ว ยังต้องเตรียมสำรองไว้รองรับมาตรการแก้หนี้ทั้งระบบของรัฐบาลด้วย 

Thai money in Brown leather wallet on white background

สำหรับการปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 5.95 ล้านล้านบาท ขยายตัว 5.22 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนเงินรับฝากอยู่ที่ 6.03 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.54%  ขณะที่สินเชื่อที่ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ผิดนัดชำระหนี้ ไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งยังไม่ตกชั้นเป็นหนี้เสีย  แต่จำเป็นต้องติดตามเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้สินเชื่อเหล่านั้นตกชั้นโดยเป็นหนี้เสียอยู่ที่ 264,000 ล้านบาท หรือ 4.10 % ของสินเชื่อคงค้าง  

ส่วนกำไรสะสมของแบงก์รัฐปรับตัวดีขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยปีงบประมาณ2566 กำไรสะสมอยู่ที่ 386,000 ล้านบาท  สูงกว่าปี 2565 และ 2564 ที่อยู่ที่ 348,000 ล้านบาท และ 323,000 ล้านบาท ตามลำดับ ในด้านเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio ) อยู่ที่ 15.16 % เพียงพอต่อการดำเนินงานของแบงก์รัฐในระยะต่อไป  

ทั้งนี้ สศค.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 ขยายตัวที่ 1.8  %ชะลอลงจากปี 2565 ที่ขยาย 2.6% โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการหดตัวของการ ผลิตภาคอุตสาหกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้า ในหมวดยานยนต์ และคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์  โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปี66  หดตัวที่ 1.5% ส่วนปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 2.8 %จากการฟื้นตัวของภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยว เป็นสำคัญ

เกาะติดการแจกโบนัสพนักงานของแต่ละแบงก์รัฐ ไม่ต่ำกว่า 3-5 เดือน ซึ่งต้องติดตามว่าแบงก์รัฐใดที่แจกโบนัสสูงสุด กรณีแจกโบนัสสูงสุดด้วยเหตุ ฐานเงินเดือนต่ำ