“คลัง” จ่อเก็บภาษีแวต จากสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท

“คลัง” จ่อเก็บภาษีแวต จากสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทต่อกล่องพัสดุ ต้อง แก้กฎหมายสรรพากร สกัดปัญหาสินค้าจีนทะลัก

  • ส่วนการยกเลิกหรือปรับเพิ่มอัตรา
  • ภาษีนำเข้าไม่เกิน 1,500 บาท
  • ไม่ได้หยิบยกมาหารือ เพราะไม่ช่วยแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 ที่ผ่านมา นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ประชุมร่วมกับ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมศุลกากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)​ และ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  ได้พิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทต่อกล่องพัสดุ  โดยที่ประชุมมีมติเห็นควรให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สำหรับสินค้าที่สั่งจากต่างประเทศ  เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางภาษี โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีน ที่เข้ามาทุ่มตลาดในประเทศไทย และจงใจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า เนื่องจากบางครั้งสินค้าราคาแพงแต่แจ้งราคาต่ำ ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

ทั้งนี้ปัจจุบันสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้รับการยกเว้นภาษีแวต    เนื่องจากประมวลรัษฎากรได้เขียนผูกไว้กับกฎหมายศุลกากร ที่ให้ยกเว้นการเก็บภาษี แวตในสินค้านำเข้าที่กรมศุลกากรยกเว้นอากรให้  ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากร คือ สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก  ดังนั้นหากจะต้องจัดเก็บภาษีแวตสำหรับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท กรมสรรพากรจะต้อง ปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีแวตได้

 สำหรับประเด็นการแก้ไขกฎหมายสรรพากรนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ขอให้สามารถจัดเก็บภาษีได้จริง และคุ้มค่าต่อการจัดเก็บ เพราะการนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำนั้น ปัจจุบันมีปริมาณเข้ามาจำนวนมากหลายสิบล้านชิ้นต่อวัน หากจะให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษีทุกรายการสินค้านำเข้านั้น จะสามารถทำได้หรือไม่ หรือจะใช้แนวทางใดในการจัดเก็บ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่พิจารณา คือ การจัดเก็บบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ขายสินค้าให้กับไทยเลย เรื่องนี้ จึงต้องกลับไปพิจารณาอย่างรอบคอบ 

ส่วนประเด็นการปรับลดมูลค่าสินค้านำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากรจาก 1,500 บาทต่อกล่องพัสดุนั้น ที่ประชุมไม่ได้มีหยิบยกมาหารือ เนื่องจากการปรับมูลค่าหรือเพิ่มมูลค่า ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว  

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง

นายจุลพันธ์  อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเกี่ยวกับสินค้านำเข้าที่ราคาถูกกว่าราคาสินค้าที่ผลิตในประเทศ สร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ประกอบการในประเทศที่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง ขณะที่สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ หากสั่งซื้อไม่เกิน 1,500บาท  ไม่ต้องเสียภาษีนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทบทวนอัตราภาษีใหม่แล้วทั้งการยกเว้นภาษีแวต และปรับอากรขาเข้าสำหรับสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ  ส่วนวิธีการ และขั้นตอนนั้น ต้องให้หน่วยงานราชการไปศึกษาว่าจะใช้วิธีการจัดเก็บอย่างไร เพื่อให้เกิดความเหมาะสม 

“ยอมรับว่า การนำเข้าสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่สั่งซื้อออนไลน์ จะได้รับการยกเว้นภาษี มีจำนวนหลายสิบล้านชิ้น เพราะราคาไม่เกิน 1,500 บาท จึงเป็นเรื่องยาก หากต้องเปิดตรวจสอบสินค้าที่นำเข้ามาแต่ละชิ้น  ส่วนแนวทางที่เสนอให้แพลตฟอร์ม ผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์จัดเก็บภาษีและนำส่งรายได้ให้รัฐบาล ก็เป็นแนวทางที่เป็นไปได้ แต่เรื่องนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการสำแดงราคาสินค้าว่าจะเป็นเท็จหรือไม่” 

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการยกเว้นภาษีอากรขาเข้าในกลุ่มสินค้าที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท เป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงระหว่างประเทศที่มีการยกเว้นเรื่องภาษีกลุ่มสินค้าราคาต่ำอยู่แล้ว  ดังนั้นต้องพิจารณารายละเอียดเพื่อความรอบคอบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ได้มีการปรับเปลี่ยนอัตรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากเดิม 500 บาท ปรับเป็น 1,500 บาท ซึ่งสามารถปรับแก้ไขได้

ส่วนประเด็นเรื่องเขตการค้าปลอดภาษี หรือ ฟรี เทรดโซนนั้น  ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง ไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องทำให้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและการค้าของประเทศเป็นสำคัญ