คลังจ่อวางระบบธุรกิจประกันใหม่ หลังเหตุเคลมโควิดพ่นพิษ

“จุลพันธ์” เร่งหารือนายกฯ เพื่อทบทวนหน้าที่ คปภ. หลังเคสเคลมโควิด “เจอ จ่าย จบ” ทำพิษ บริษัทประกันจอดไปหลายแห่ง ทำผู้ทำประกันเดือนร้อน

  • ล่าสุด บมจ. สินมั่นคงประกันภัย มีปัญหาเคลมประกันโควิด มีมูลหนี้รวม 30,000 ล้านบาท
  • เผยยอด 4 บริษัทก่อนหน้าที่เจอปัญหานี้ ค้างยอดเคลม 60,000 ล้านบาท
  • ด้านรัฐบาลเตรียมอัดงบใส่กองทุนประกันวินาศภัยปี 67 แค่เพียง 4,000 ล้านบาท

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สั่งให้ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.66 นั้น ในประเด็นดังกล่าวทางกระทรวงการคลัง จะเร่งหารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ถึงแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจประกันประกันชีวิต และประกันวินาศภัย

รวมถึงจะหารือเพื่อทบทวนบทบาทของ คปภ. ว่าจะสามารถปรับแก้ไขแนวทางการกำกับดูแลถึงปัญหาดังกล่าวให้ทันสถานการณ์ มีช่องโหว่ ที่ต้องให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาจุดไหนหรือไม่ เพื่อให้การส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนที่ทำประกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

“ส่วนตัวผมไม่ได้กำกับดูแล คปภ. โดยตรง แต่หลังจากรับรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จะนำปัญหาของธุรกิจประกันไปหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีข้อสั่งการในการดำเนินการ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ทำประกัน”

นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณี บมจ. สินมั่นคง ประกันภัย ทาง คปภ.ได้มีคำสั่งให้หยุดดำเนินการรับประกันใหม่ ส่วนลูกค้ารายเดิม ซึ่งเป็นลูกค้าที่ทำประกันโควิด-19 ในผลิตภัณฑ์ “เจอ จ่าย จบ” มีมูลหนี้ประกันรวม 30,000 ล้านบาท ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามข้อกฎหมายก่อน ส่วนกลุ่มลูกค้าประกันทั่วไป ที่มีมูลหนี้อีก2,000 ล้านบาท กลุ่มนี้สามารถโอนย้ายประกันไปยังบริษัทอื่นได้ ซึ่งก็อยู่ในขั้นตอนดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ สำหรับประเด็นปัญหาของกองทุนประกันวินาศภัย ที่ยังคงมียอดค้างชำระหนี้ประเด็นลูกค้าเคลมประกันโควิด-19 ของ 4 บริษัทประกัน ที่ปิดกิจการลงมีมูลหนี้ราว 60,000 ล้านบาท ในส่วนนี้ คปภ. อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อจ่ายเคลมให้กับผู้ทำประกันเอาไว้ แต่การตรวจสอบต้องใช้เวลาดำเนินการ ประกอบกับเงินกองทุนประกันวินาศภัยขณะนี้มีแค่ 6,000 ล้านบาท และมีเงินไหลเข้ากองทุนปีละประมาณ 600-700 ล้านบาท จากการจัดเก็บเงินสมทบกองทุน 0.5% ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทรับมาแต่ละปี ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการจ่ายเงินเคลมประกันโควิด-19 ขณะที่ คปภ.ได้เสนอทางออกด้วยการเสนอให้แก้ไขกฎหมาย เพิ่มเงินสมทบกองทุนเป็น 2.50% จากเดิม 0.5% ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับการสมทบเงินเข้ากองทุนประกันวินาศภัยของรัฐบาลในปีงบประมาณปี 67 รัฐบาลได้เตรียมจัดสรรเงินงบไว้ให้ 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กองทุนฯ เพื่อนำเงินในส่วนนี้มาจ่ายค่าเคลมประกันที่คงค้างอยู่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับการจ่ายเคลมประกันเช่นเดิม โดยจากนี้จำเป็นต้องหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาธุรกิจประกันใหม่ทั้งระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ทำประกันภัยต่อไป