

“ลวรณ” ปลัดคลัง สั่งด่วน! มอบการบ้าน 3 กรมจัดเก็บภาษี “สรรพากร-สรรพสามิต-ศุลกากร” เร่งจัดเก็บรายได้ให้เข้าเป้า หลัง ปลัดคลัง พบยอดจัดเก็บตอนนี้ ต่ำกว่าเป้าถึง 2.6 หมื่นล้านบาท
- พร้อมมอบกรมบัญชีกลาง เร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้าง หากมีผู้ประมูลที่ผ่านคุณสมบัติ เพียงรายเดียว ก็สามารถทำสัญญาได้
- เชื่องบประมาณที่เร่งเบิกจ่าย ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ส่งให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 2.4%
- เผยฐานะการคลัง 8 เดือนแรก ของปีงบฯ 67 มีรายได้นำส่งคลัง จำนวน 1,628,689 ล้านบาท
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2567 ถือเป็นช่วงที่ท้าทาย การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ขณะนี้ ยอดการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 26,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตนจึงได้เรียกอธิบดี 3 กรม ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะกรมสรรพากร ให้เร่งรัด และเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดเก็บรายได้ เพื่อให้รายได้ของรัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมาย
“ตอนนี้ได้ฝากอธิบดี 3 กรม เร่งจัดเก็บรายได้ โดยเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ เชื่อว่าจะสามารถปิด Gap ได้ ต้องรอดูช่วงเดือนที่ 9-10 น่าจะเห็นสัญญาณเรื่องนี้”
นายลวรณ กล่าวด้วยว่า ในปีงบประมาณ 2567 นี้ ถือว่ารัฐบาล ออกตัวช้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2567 ที่ล่าช้า ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณ และการจัดเก็บรายได้ ได้รับผลกระทบตามมา
ทั้งนี้ ล่าสุดในส่วนของการเบิกจ่าย ได้มอบให้กรมบัญชีกลาง ดำเนินการเร่งรัด กรณีการจัดซื้อจัดจ้าง หากมีผู้ประมูลที่ผ่านคุณสมบัติเพียงรายเดียว ก็สามารถทำสัญญาได้เลย เชื่อว่าจะทำให้ยอดการเบิกจ่ายจะไม่แพ้ปีก่อนหน้า
“สำหรับงบประมาณ ที่จะเร่งรัดเบิกจ่าย ให้มากขึ้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมาย ที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าไว้ ที่ 2.4%”
ทั้งนี้ ยังไม่นับรวม มาตรการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ทางรัฐบาล จะอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ อีกราว 500,000 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 2567 นี้
นายลวรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 8 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66 – พ.ค.67) รัฐบาลจัดเก็บรายได้ สุทธิจำนวน 1,676,921 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ ตามเอกสารงบประมาณ 26,238 ล้านบาท หรือ 1.5%
ทั้งนี้ ในส่วนยอดการจัดเก็บรายได้ 3 กรม ยังจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการ 2.4% โดยสาเหตุสำคัญเป็นผลมาจาก การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ที่ต่ำกว่าประมาณการ
โดยเหตุที่กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้ ได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องมาจากมีมาตรการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้ประชาชน ประกอบกับการจัดเก็บภาษีรถยนต์ และภาษียาสูบต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ โดยกรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้ ได้จำนวน 349,564 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 13.3%
นอกจากนี้ ในส่วนการจัดเก็บรายได้ ของกรมสรรพากร สามารถจัดเก็บรายได้ ได้จำนวน 1,320,954 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 0.6% ส่วนกรมศุลกากร สามารถจัดเก็บรายได้ได้ 79,025 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3.6%
ทั้งนี้ รายได้รัฐบาลสุทธิจัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.5% อย่างไรก็ตาม ฐานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้พิเศษรวม 53,130 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้รัฐบาลสุทธิจะสูงกว่า ช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.8%
อย่างไรก็ตาม สำหรับฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้นจำนวน 1,628,689 ล้านบาท ในขณะที่ มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน2,207,955 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 420,170 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 394,260 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯย้ำ งบ ปี 68 รัฐเดินตามกรอบวินัยการเงินการคลัง