คลัง-ก.ล.ต.-ตลท. ร่วมพลังปรับเงื่อนไข กองทุน ThaiESG

กองทุน ThaiESG
กระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ก.ล.ต. และ ตลท. ผนึกกำลัง แถลงมาตรการกระตุ้น ตลาดทุนไทย ชูแผนปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืน หรือ กองทุน ThaiESG

กระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ก.ล.ต. และ ตลท. ผนึกกำลัง แถลงมาตรการกระตุ้น ตลาดทุนไทย ชูแผนปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืน หรือ กองทุน ThaiESG ให้เริ่มลงทุนได้ ก.ค. 67 คาด กองทุน ThaiESG นี้ จะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 4 หมื่นล้าน

  • จ่อเสนอคณะรัฐมนตรี ภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ เผยระยะเวลาถือครอง 5 ปี
  • ให้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ ซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท
  • ด้านคลังจ่อฟื้น กองทุนรวมวายุภักษ์ คาดได้ข้อสรุปช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

วันนี้ (24 มิ.ย.67) กระทรวงการคลัง พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกันแถลงมาตรการกระตุ้นตลาดทุน โดยมี นายพิชัยชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง

พร้อมด้วย นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมแถลงข่าวด้วย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางกระทรวงการคลัง ตลท. และ ก.ล.ต.ได้ปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund : TESG fund) เพื่อขับเคลื่อนตลาดทุน ยกระดับความเชื่อมั่น และสนับสนุนการออมให้กับประชาชนคนไทย โดยกระทรวงการคลัง คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้

ทั้งนี้ การปรับเงื่อนไข ThaiESG ในครั้งนี้ คาดว่า จะเริ่มให้ลงทุนได้ในเดือน ก.ค. 67 โดยมีระยะเวลาลงทุนประมาณ 4-5 เดือน คาดจะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 30,000-40,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Thai ESG ที่ออกมาก่อนหน้านี้

Screenshot

ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการเพียง 1 เดือน และมีเม็ดเงินลงทุน 6,000 ล้านบาท โดยการดำเนินการปรับเงื่อนไขกองทุนฯดังกล่าว จะส่งผลต่อการสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 13,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ นายพิชัย ยังกล่าวด้วยว่า ตอนนี้ทางกระทรวงการคลัง มีแนวคิดที่จะนำ กองทุนรวมวายุภักษ์ กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด คาดว่า จะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 3 ของปี 67 นี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุนรวมวายุภักษ์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงพอต่อความต้องการในการจำหน่าย ซึ่งเดิมประชาชนทั่วไปจะต้องมาลงทุน ผ่านหน่วย ก (สำหรับประชาชนทั่วไป) ที่มีรายละเอียด คือได้รับผลตอบแทนตามจริงโดยมีขั้นต่ำต่อปี/ขั้นสูงต่อปี เป็นเวลา 10 ปี

ได้รับชำระคืนเงินลงทุนก่อน ผู้ถือหน่วย ข (สำหรับกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่น) ตามแนวชำระคืนเงินลงทุน ที่มีลักษณะเป็น waterfall (ขั้นต่ำของผลตอบแทนการลงทุน)

ทั้งนี้ แนวคิดการดำเนินการดังกล่าวนั้น ยังต้องการดำเนินการในรูปแบบเดิม คือมีการประกันขั้นต่ำของผลตอบแทนเช่น ประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% เป็นต้น ซึ่งหมายถึงหากผลตอบแทน ต่ำกว่านั้น ก็ยังต้องได้รับผลตอบแทนที่ 3%

“เวลานี้ ส่วนตัวคิดว่าภาครัฐ ต้องสร้างอะไรขึ้นมา การสร้างหน่วยลงทุน ก็เป็นการสร้างการออมให้ประเทศ เมื่อก่อนทำไว้ไม่พอจำหน่าย จึงมีความคิดเอากลับมา เป็นสัดส่วนการลงทุน แบ่งเป็น สัดส่วน 3.5 แสนล้านบาท และออกอีก1.5 แสนล้านบาท รวม 2 กองเป็น 5 แสนล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง กำลังเร่งพิจารณาในเรื่องนี้อยู่” นายพิชัย กล่าว

Screenshot

ด้านนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดของการปรับเงื่อนไข ThaiESG ใหม่ ประกอบไปด้วย

1.ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมสูงสุด100,000 บาท

2.ระยะเวลาถือครอง 5 ปี (นับจากวันที่ซื้อ) จากเดิม 8 ปี

3.ต้องลงทุนใน (1) หุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) / ESG หรือ เปิดเผยข้อมูล ก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน cg rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G) ในระดับ และ รูปแบบ ที่ก.ล.ต. กำหนด

(2) ESG Bond และ (3) Green Token (4) หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล มากกว่า80% จากเดิมส่วนใหญ่ เน้นที่ ESG Bond และ Green Token เท่านั้น

นางพรอนงค์ กล่าวต่อว่า หลังจากได้รับการอนุมัติจาก ครม. แล้ว จะมีการประกาศเงื่อนไขของหุ้น ที่จะสามารถซื้อได้ภายใน 2 สัปดาห์ โดยหาก ครม. อนุมัติแล้ว จะมีผลย้อนหลัง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67

Screenshot

กระทรวงการคลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “เศรษฐา”กู้ศรัทธาตลาดหุ้น ชู 3 แนวทางพัฒนาตลาดทุนไทย