“โสภณ” ลั่นถึงเวลาจริงจังพัฒนา การศึกษาไทย ให้ยั่งยืน

“โสภณ ซารัมย์” สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณฯ ปี 68 ชี้ปัญหาด้าน การศึกษาไทย เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องจริงจัง เผยแก้ การศึกษาไทย ต้องยกเครื่อง ลดคนเพิ่มเทคโนโลยี

  • ถึงเวลาที่ ต้องมีทิศทางที่ชัดเจน ต้องมีร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ทุกพรรคร่วมกันทำ
  • ต้องมุ่งพัฒนาคนตามวัย เพิ่มคุณภาพระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้นักเรียนได้เลือกสายอาชีพ
  • ชี้จากนี้ ต้องดูว่าจะจัดงบอย่างไร เพื่อเกิดความสมดุล พัฒนาการศึกษาไทย ได้อย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 มิ.ย.67) นายโสภณ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ว่า ในการจัดสรรงบประมาณ ได้เห็นยุทธศาสตร์ การศึกษา เพียง 13% โดยตั้งแต่เมื่อวาน คนที่ลุกขึ้นมาอภิปรายส่วนใหญ่ พูดว่า เรื่องการศึกษา เป็นปัญหาใหญ่ เพราะสะสมปัญหามานาน จนเป็นหนึ่งในวิกฤตของประเทศ

“การที่จะแก้ปัญหา เรื่องการศึกษา จะต้องยกเครื่อง อย่างจริงจัง การเปลี่ยนผ่านที่สำคัญคือ ต้องลดคนเพิ่มเทคโนโลยี” นายโสภณ กล่าว

นายโสภณ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราจะเปลี่ยนการศึกษาไทย เพื่อพลิกโฉมใหม่ให้ประเทศ ต้องมีทิศทางที่ชัดเจน คือต้องมีร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ทุกพรรคการเมือง ร่วมกันทำ

รวมถึง หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะเป็นฉบับประวัติศาสตร์ คือต้องมุ่งเน้นพัฒนาคนตามวัย เพิ่มคุณภาพ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนให้นักเรียน ได้เลือกสายอาชีพ ฝึกทักษะด้านฝีมือ เพื่อจบมาแล้ว จะไม่ตกงาน และอยากเห็นครู เป็นครูมืออาชีพ มากกว่าการเป็นอาชีพครู

“ผมจึงกราบเรียนไปยังกรรมาธิการ ว่าถ้าเราจะเอาจริง ในเรื่องการศึกษา ท่านต้องไม่ตัดงบกระทรวงศึกษา แต่สามารถปรับโครงการ ที่ไม่สําคัญไปใส่โครงการที่สําคัญ และสามารถปรับลดงบกระทรวง ทบวง กรม อื่นๆ ที่สามารถรอได้ แล้วให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเพิ่มในงบกรรมาธิการ ก็สามารถทําได้

เพราะฉะนั้น วันนี้ ถ้าเราจะเปลี่ยน หรือพลิกประเทศ ต้องเอาการศึกษานำ ต้องเปลี่ยนการศึกษา เปลี่ยนทุกองคาพยพและหวังว่า การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ จะได้นำประเด็นที่ตน ได้อภิปราย ไปพิจารณาว่า จะจัดงบอย่างไร จึงจะเกิดความสมดุล และพัฒนาการศึกษาไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายโสภณ กล่าว

ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ได้เคยกล่าวไว้ในงานสัมมนา เรื่อง“เปลี่ยนการศึกษาไทย พลิกโฉมใหม่ประเทศ” ที่จัดโดย คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร โดยกล่าวว่า ประเทศไทยต้องกำหนดทิศทาง การพัฒนาด้านการศึกษา ให้สอดคล้องกับความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงของโลก

โดยปัจจุบัน โลกก้าวสู่ยุค 5.0 แต่การศึกษาไทยยังอยู่ในระบบ 2.0 ทั้งนี้ มองว่าการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศเวลานี้ต้องเปลี่ยนการศึกษา มาสู่ระบบ 5.0 ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก และเทคโนโลยี

ซึ่งกล่าวคือ กรอบความคิดต้องเปลี่ยน จากระบบ 2.0 ที่ว่า “สอบให้ผ่าน ทำการบ้านให้เสร็จ ทำรายงานให้ทัน ปิดเทอม” มาสู่ 5.0 คือ “ตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบ ลงมือทำร่วมกัน อภิปรายด้วยเหตุผล ปรับปรุงพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ”

“การเปลี่ยน การศึกษาไทย สู่ 5.0 ต้องกำหนดเข็มทิศ อีกประการคือ การให้ความรัก ความมั่นคง และความมั่นใจ กับเด็ก ครูจะต้อง ปรับเปลี่ยนบทบาท จากผู้สอน มาเป็นโค้ชที่ดี เป็นผู้นำ กระบวนการเรียนรู้ (Facilitator) ที่มีความเมตตา และโรงเรียน ควรปรับระบบ การสอนให้เป็น Learning Center เด็กจะได้เรียนรู้ ผ่านการลงมือทำจริง โดยเน้นย้ำว่า เด็กทุกคน ต้องมีคอมพิวเตอร์ เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะนำไปสู่ องค์ความรู้ทั้งโลก” นายศุภชัย กล่าว

กระทรวงศึกษาธิการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : อว.ดึงเอกชนเกาหลีร่วมพัฒนา AI เพื่อการศึกษาไทย