“เผ่าภูมิ” ชู ‘หวยเกษียณ’ แก้ปัญหาคนไทยแก่และจน

หวยเกษียณ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง แถลง นโยบาย “สลากสะสมทรัพย์ เพื่อเงินออมยามเกษียณ” หรือ “สลากเกษียณ”


เผ่าภูมิ รมช.คลัง ลุยแก้ปัญหาประชาชนเข้าสู่วัยเกษียณ แล้วไร้เงินเก็บ จ่อผุดนวัตกรรมเชิงนโยบาย “หวยเกษียณ” เข้าแก้ปัญหา โดยเงินซื้อ หวยเกษียณ จะถูกสะสมเป็นเงินออม 

  • ผู้ซื้อสามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมด ออกมาได้ในช่วงตอนวัยเกษียณ อายุ 60 ปี
  • เผยสามารถทำได้ด้วยการแก้ไขกฎหมาย กอช.เพิ่มเติม คาดสามารถเริ่มได้ในปี 68
  • คาดจะสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน เข้ามาออมเงินเพิ่มขึ้น คาดจำนวนสมาชิกเพิ่มเป็น 16-17 ล้านราย

วันนี้ (6 มิ.ย.67) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้แถลงผลดำเนินงาน เผยว่า ปัจจุบันไทยมีปัญหาประชาชนเข้าสู่วัยเกษียณ แต่ส่วนใหญ่มีปัญหาคือไร้เงินเก็บ ซึ่งปัญหานี้ จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยประเทศไทยกำลัง ก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว โดยปัญหาเหล่านี้ แก้ไขไม่ได้ด้วยการอัดงบประมาณ ในรูปแบบเบี้ยคนชราจำนวนสูงๆ ซึ่งในที่สุดแล้ว ระบบงบประมาณไม่มีทางรับไหวแน่นอน

ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น ทางกระทรวงการคลังกำลังพิจารณานโยบาย “สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” หรือเรียกสั้นๆ ก็ได้ว่า “สลากเกษียณ” หรืออย่างไม่เป็นทางการ ก็อาจจะเรียกว่า “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบาย ที่รวมเอาลักษณะการชอบเสี่ยงดวง ลุ้นรางวัล ของคนไทย มาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออม ที่สามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมด ออกมาได้ในช่วงตอนวัยเกษียณ (อายุ 60 ปี) 

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการใช้งบประมาณ สำหรับดูแลเบี้ยชรา มียอดสูงถึงปีละหลายแสนล้านบาท แต่หวยเกษียณดังกล่าวใช้เงินงบประมาณมาดำเนินการ โดยเฉลี่ยใช้งบเพียง สัปดาห์ละ 15 ล้านบาท คิดเป็นเดือนละ 60 ล้านบาท หรือปีละ 700 ล้านบาทเท่านั้น 

โดยขั้นตอนในการดำเนินการ สามารถทำได้ด้วยการแก้ไขกฎหมาย กองทุนการออมแห่งชาติเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในปี 2568

ทั้งนี้ สำหรับสลากสะสมทรัพย์ เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ มีรายละเอียดเบื้องต้น (สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง) ดังนี้

1. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตนมาตรา 40 (ม.40) และแรงงานนอกระบบ (กลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง) ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน

2. สามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัล หรือไม่ก็ตาม

3. รางวัลของ “ทุกวันศุกร์” กำหนดดังนี้ (อาจปรับเปลี่ยนได้ ตามความเหมาะสม)

3.1. รางวัลที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล

3.2. รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล

4. เงินค่าซื้อสลากทั้งหมด จะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับกอช. 

โดยทาง กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้

“นโยบายนี้ จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ที่ว่าคนไทยแก่แต่จน แก่แล้วไม่มีเงินเก็บ เพราะการออมภาคสมัครใจในปัจจุบัน ไม่ได้ผล ต้องอาศัยการออม ที่ผูกกับแรงจูงใจซื้อสลาก ถูกกฎหมาย เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมยามเกษียณอีกทั้งถูกรางวัล ก็ได้รับเงินเลย อีกทั้งหาก ไม่ถูกรางวัล เงินที่ใช้ซื้อสบากไปทุกบาททุกสตางค์ ก็จะถูกเก็บ เป็นเงินออมยามเกษียณ พูดได้ว่า ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินออมมาก” นายเผ่าภูมิ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสมาชิก กอช. มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย คาดว่าหากแก้ไขกฎหมาย และออกผลิตภัณฑ์หวยเกษียณ จะสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน เข้ามาออมเงินเพิ่มเติม โดยคาดว่า จำนวนสมาชิก จะเพิ่มขึ้นเป็น 16-17 ล้านราย 

ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินการดังกล่าว ขณะนี้ทางกระทรวงการคลัง ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาต่อระบบ การจำหน่ายสลากในปัจจุบันแน่นอน

กระทรวงการคลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายก สั่งคลัง ศึกษาเอ็นเตอร์เทนเม็นต์ คอมเพล็กซ์