

ดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 160 จุด กังวลทิศทางดอกเบี้ยยังไม่หยุดขึ้น นักลงทุนเทขายหุ้นลดความเสี่ยง หลังไม่แน่ใจทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ริชมอนด์ กลับมาส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ตลาดจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำวันที่ 12-13 ธ.ค.ที่จะออกมาคืนนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 2 ของปีใหม่ยืนในแดนบวกไม่อยู่ มีแรงเทขายหุ้นออกมา หลังกังวลเจ้าหน้าที่เฟดยังเห็นความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยต่อ รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่คาดว่าจะไม่ดีของบริษัทขนาดใหญ่อย่างบริษัทแอปเปิ้ล
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 37,545.34 จุดลดลง 169.70 จุด หรือ 0.45% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,719.47 จุด ลดลง 23.36 จุด หรือ 0.49% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,692.93 จุด ลดลง 73.01 จุด หรือ 0.49%
นักลงทุนกลับมาไม่แน่ใจในสถานการณ์ดอกเบี้น หลังนายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยยังคงมีความเสี่ยงที่ว่าภารกิจของเฟดในการสกัดเงินเฟ้ออาจจะยังไม่สิ้นสุดลง
ทั้งนี้ นายบาร์กินแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง อย่างไรก็ดี นายบาร์กินกล่าวว่า เฟดยังคงมีทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีความคืบหน้าในการชะลอเงินเฟ้อ
“อัตราดอกเบี้ยระยะยาวได้ปรับตัวลงในระยะนี้ และจะกระตุ้นอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่สูงกว่าเป้าหมาย สิ่งนี้จึงทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปยังคงเป็นทางเลือกของเฟด” นายบาร์กินกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และการร่วงลงของหุ้นแอปเปิ้ล โดยราคาหุ้นบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 หลังบาร์เคลย์สประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับยอดขาย iPhone 15 ที่ชะลอตัว
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 12-13 ธ.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ รวมทั้งข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้
นอกจากนั้น ยังจับตาทตลาดแรงงาน เพื่อมองทิศทางเศรษฐกิจ โดยสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ในวันนี้ ส่วนวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่วันศุกร์จะมีตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร