

“จุลพันธ์” เผยเหตุ ธปท. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วและแรงเกินไป ส่งผลกระทบทำให้เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง สั่งสศค.เกาะติดใกล้ชิด
- อัตราเงินเฟ้อยังคงติดลบต่อเนื่อง
- ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
- ประเมินภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดใกล้ชิด
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ,ผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ถึงสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบในอัตราที่สูงติดต่อกัน 3 เดือน และหากถอดราคาพลังงานออกไป อัตราเงินเฟ้อยังคงติดลบ ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง จึงได้กำชับให้สศค.เกาะติดสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดทั้งภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด
สำหรับกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผลประกอบของธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรสูงเป็นประวัติการณ์นั้น ไม่เกี่ยวกับกระทรวงการคลัง เนื่องจากกระทรวงการคลัง กำกับดูแลสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งให้สถาบันการเงินของรัฐ ตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะหารือกับธปท.เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่นั้น เป็นภารกิจของนายกรัฐมนตรี โดยเชื่อว่านายกรัฐมนตรีและรมว. คลังได้มีการหารือกับธปท.เป็นระยะๆ อยู่แล้ว
“ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในอัตราที่สูง ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายมีความเห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร็วและแรงเกินไป จนทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ และมีผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้กระทรวงการคลัง ต้องเกาะติดสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด”