

“สุริยะ” โล่งอก พร้อมเดินหน้าโครงการ ไฮสปีด 3 สนามบิน หลัง “ซีพี” ยืนยันจะเข้ามาก่อสร้างในพื้นที่ทับซ้อน ช่วงบางซื่อ – ดอนเมืองเอง รอแค่เอาเข้าที่ประชุม กพอ. เสนอแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ไฮสปีด 3 สนามบิน ก่อนชง ครม.อนุมัติ ขณะที่การรถไฟไทย ลั่น พร้อมส่งมอบพื้นที่ 100%
- เผยภาครัฐรับเงื่อนไขการสร้างไปจ่ายไป โดยให้จ่ายเป็นงวดงาน ตามที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ
- ชี้หากแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ผ่า และก่อสร้างในปีนี้ จะใช้เวลาสร้างราว 5 ปีเสร็จ เปิดให้บริการปี 72
- รวมระยะทาง 220 กม. ทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. เชื่อม กทม.กับพื้นที่อีอีซี ภายในระยะเวลา 60 นาที
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ว่า ตนได้รับการยืนยันจาก บริษัท เอเชีย เอราวันจำกัด ที่มีเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้ได้รับสัมทานก่อสร้างโครงการนี้ จะขอเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน และยืนยันว่าจะรับผิดชอบก่อสร้างในช่วงโครงสร้างร่วมกันในโครงการรถไฟไทย – จีน ช่วง “บางซื่อ – ดอนเมือง”
ขณะเดียวกัน ภาครัฐยังรับเงื่อนไขการสร้างไปจ่ายไป โดยทางเอกชนขอให้รัฐจ่ายค่าที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการวงเงิน 119,000 ล้านบาท โดยให้จ่ายเป็นงวดงาน ตามที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จากเดิมภาครัฐต้องจ่ายหลังเอกชนก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ จากเงื่อนไขที่เสนอให้รัฐเร่งจ่ายค่าร่วมลงทุนเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้รัฐรับความเสี่ยง และการันตีได้ว่า เอกชนรับเงินอุดหนุนจากภาครัฐไปแล้ว จะยังคงดำเนินการก่อสร้างโครงการต่อเนื่อง จึงมีข้อตกลงร่วมกันให้เอกชนจัดหาหลักประกันทางการเงิน หรือแบงก์การันตี ในกรอบวงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท และจะทยอยคืนหลักประกัน เมื่อเอกชนส่งมอบงานเป็นงวด
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในฐานะที่กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งเป็นคู่สัญญาและดูแลโครงการไฮสปีดเทรนสายนี้ ยังมั่นใจว่า การเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนนั้น จะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนหลังมีการประชุม กพอ. เพราะจากผลการเจรจากับเอกชน ก็มีข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกัน ดังนั้นเชื่อว่าโครงการนี้ จะเริ่มก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้ และในส่วนของ ร.ฟ.ท. ปัจจุบันมีความพร้อมส่งมอบพื้นที่แล้ว
“ โครงการนี้อยู่ภายใต้การรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือสกพอ. ซึ่งปัจจุบันทราบว่า อยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณารายละเอียดแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชน เนื่องจากมีการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้ต้องมีการแต่งตั้งประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.)
ซึ่งน่าจะเป็น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ดังนั้นเรื่องนี้ จึงต้องรอให้มีการนัดประชุมกพอ.และพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมทุน จึงจะทราบรายละเอียดของการแก้ไขสัญญาร่วมทุน และมีการพิจารณาก่อนเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.)” นายสุริยะ กล่าว
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะผลักดันโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ให้เดินหน้าตามแผน โดยภายหลังเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. จะเร่งศึกษารายละเอียดของสัญญาร่วมลงทุน และหากภาคเอกชนมีประเด็นที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพราะโครงการรถไฟไฮสปีดสายนี้ มีความสำคัญต่อการคมนาคม และการท่องเที่ยวอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุม กพอ. และเสนอไปยังครม.พิจารณาแล้ว ก็คาดว่า จะลงนามสัญญาฉบับใหม่ และสามารถส่งมอบพื้นที่ พร้อมออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ให้เอกชนได้ภายในปีนี้
โดยในส่วนของ รฟท. พร้อมส่งมอบพื้นที่ตามสัญญา 100% หากโครงการก่อสร้างได้ภายในปีนี้ ก็จะใช้เวลาสร้างราว 5 ปีแล้วเสร็จ สามารถเปิดให้บริการในปี 2572
ทั้งนี้ สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการที่ใช้โครงสร้าง และแนวเส้นทางการเดินรถเดิมของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ตลิงค์ (Airport Rail Link) ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ส่วนต่อขยาย 2 ช่วงจากสถานีพญาไท ไปยังสนามบินดอนเมือง
และจากสถานีลาดกระบังไปยังสนามบินอู่ตะเภา พร้อมเชื่อมเข้าออกสนามบิน โดยใช้เขตทางเดิมของการรถไฟ เป็นส่วนใหญ่รวมระยะทาง 220 กม. มีผู้เดินรถรายเดียวกัน ซึ่งรถไฟความเร็วสูงมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงเชื่อมกรุงเทพฯ กับพื้นที่ อีอีซี ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 นาที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รถไฟไทยขออัพเดท!…รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา”สร้างถึงไหน…