“พาณิชย์” จี้สายเดินเรือขึ้นค่าระวางแบบขั้นบันได

พาณิชย์จี้สายเดินเรือขึ้นค่าระวางแบบขั้นบันได หลังแห่ปรับขึ้นราคารับความเสี่ยงขนส่งทางทะเลแดง

  • ปลัดพาณิชย์สั่งกรมการค้าภายในถกเข้มอีกครั้งหลังปีใหม่
  • ลั่นโจมตีเรือสินค้าทะเลแดง ยังไม่กระทบส่งออกสินค้าไทย

นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการหารือกับสายเดินเรือและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามผลกระทบและมาตราการรองรับกรณีกลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงว่า ขณะนี้ สายเดินเรือต่างๆ หยุดการเดินเรือชั่วคราว เพราะเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่กรมได้ขอข้อมูลจากสายเดินเรือใน 3 เรื่องคือ 1.สถานการณ์ล่าสุดของค่าใช้จ่ายการเดินเรือที่สูงขึ้น ทั้งค่าระวางเรือ ค่าธรรมเนียม หรือค่าเซอร์ชาร์จ (Surcharge) ต่างๆ โดยขอให้ส่งมาแบบแรียลไทม์ เพื่อที่จะได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ทราบข้อมูลเดียวกัน

2.กรณีที่หากสายเดินเรือจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียม ค่าระวางเรือ ขอให้ปรับขึ้นอย่างเป็นธรรม เหมาะสม และขึ้นเป็นแบบขั้นบันได ซึ่งกรณีนี้นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน เชิญสายเดินเรือมาประชุมอีกครั้งต้นเดือนม.ค.67 และ3.ขอให้ท่าเรือต่างๆ เช่น ท่าเรือดูไบ ให้ขยายเวลา Free time ในการขนสินค้าออกจากท่าเรือเป็นสูงสุด 21 วัน เพราะเรือขนส่งสินค้าต้องใช้ระยะเวลาขนส่งสินค้าที่ยาวนานขึ้นจากการเปลี่ยนเส้นทางโดยไม่ผ่านทะเลแดง เป็น 14-21 วัน จากเดิม 7-14 วัน

สำหรับอัตราค่าระวางเรือในขณะนี้ ยังไม่รายงานเพิ่มเติมว่ามีการปรับขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ แต่เรือขนส่งสินค้าที่ออกทะเลไปก่อนเกิดเหตุโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง สายเดินเรืออยู่ระหว่างเจรจราปรับขึ้นค่าระวางเรือกับผู้ส่งออกเป็นรายๆ

“ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ หวังว่า จะไม่ยืดเยื้อ และยุติโดยเร็วไม่เกิน 1 เดือน เพราะประเทศมหาอำนาจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ ไม่น่าจะยอมให้สถานการณ์ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ โดยทะเลแดง ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการขนส่งสินค้า และหากเหตุการณ์ยุติเร็ว ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย”

สำหรับสายเดินเรือสำคัญที่ขนส่งไปยุโรป และต้องผ่านทะเลแดง มี 5 สายเดินเรือหลัก ประกอบด้วย Maersk, MSC, Evergreen, CMA CGM และ Hapag-Lloyd ขณะที่บริษัทขนส่งทางทะเล 13 บริษัทที่ประกาศเลี่ยงเส้นทางทะเลแดง หันไปใช้เส้นทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาแทน ได้แก่ ZIM, Maersk, MSC, OOCL, CMA CGM, Hapag-Lloyd, Yang Ming, HMM, ONE, EURONAV, WILHELMSEN, Evergreen และ Wan Hai เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี ทำต้องเดินทางไกลขึ้น และค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น บางบริษัทอาจขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น