วิทยุการบินหนุน สร้างทางบินคู่ขนาน รับเที่ยวบินโตกระฉูด 2 แสนเที่ยวบิน

สร้างทางบินคู่ขนาน
วิทยุการบินฯ ลุย สร้างทางบินคู่ขนาน รับเที่ยวบินโต คาดเที่ยวบินไทย-จีน ปีนี้โต 126%


วิทยุการบินฯ ลุย สร้างทางบินคู่ขนาน รับเที่ยวบินโต คาดเที่ยวบินไทย-จีน ปีนี้โต 126% พร้อมพัฒนาน่านฟ้า หนุนเป็นฮับการบิน ตามนโยบายรัฐบาล ชี้การ สร้างทางบินคู่ขนาน มั่นใจช่วยรองรับ เที่ยวบินไม่ต่ำกว่า 200,000 เที่ยวจากเดิม 100,000 เที่ยวบินต่อปี

  • พร้อมพัฒนาระบบเทคโนโลยีการเดินอากาศ ปรับปรุงโครงสร้างห้วงอากาศ รองรับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม
  • เผยเฉพาะเที่ยวบินจาก เฉิงตู คาดตลอดทั้งปี 67 จะมีเที่ยวบิน ไป-กลับ เฉิงตู รวม 8,850 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 265%
  • จ่อหนุนพัฒนา สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ระยะเริ่มต้น (Phase 0) มุ่งเน้นการขนส่งสินค้าทางอากาศ จากเขต EEC

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไทย และยกระดับศักยภาพด้านการบินของประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลไทย และจีน ได้เห็นชอบข้อตกลงทวิภาคี ในการยกเลิกข้อกำหนดด้านวีซ่า ให้แก่นักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบิน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เที่ยวบินไทย – จีน มีสัดส่วนที่สูงสุด คือ 20% ของปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 – พฤษภาคม 2567 (8 เดือน) ปริมาณเที่ยวบิน ไทย – จีน รวม 55,433 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 213% และคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2567 จะมีปริมาณเที่ยวบินไทย – จีน รวม 86,150 เที่ยวบินเพิ่มขึ้นทั้งปี 126%

จ่อเพิ่มเที่ยวบิน ไปจุดหมายปลายทาง เมืองเศรษฐกิจสำคัญ

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสนามบินในประเทศไทย ที่มีเที่ยวบินจากจีนมาทำการบิน ประกอบด้วย สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย และกระบี่ โดยมีทั้งเที่ยวบินขนส่งสินค้า และเที่ยวบินรับ-ส่งผู้โดยสารยกเว้นที่ดอนเมือง และสมุย มีตารางการบินล่วงหน้าสำหรับเที่ยวบินรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้น

ซึ่งขณะนี้ หลายสายการบินได้กลับมาให้บริการในเส้นทางบินไทย – จีน อีกทั้ง มีการขอเพิ่มเที่ยวบิน ไปยังจุดหมายปลายทาง ที่เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ เช่น เฉิงตู ซึ่งประเทศไทยเตรียมขยายตลาดทางการบิน รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

ทั้งนี้ สนามบินในประเทศไทย ที่มีเที่ยวบินไป-กลับ เฉิงตู ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และสมุย ซึ่งในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีเที่ยวบินไป–กลับ เฉิงตู รวม 5,896 เที่ยวบิน และคาดการณ์ว่า ตลอดทั้งปี 2567 จะมีเที่ยวบิน ไป-กลับ เฉิงตู รวม 8,850 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 265%

“ตอนนี้ได้มอบหมายให้ วิทยุการบินฯ เร่งขยายขีดความสามารถ ในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน ซึ่งวิทยุการบินฯ ได้จัดสร้างเส้นทางบินใหม่ ให้เป็นแบบเส้นทางบินคู่ขนาน หรือ Parallel Route รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

การเดินอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการการจราจรทางอากาศ อีกทั้งปรับปรุงระบบเทคโนโลยี ปรับปรุงโครงสร้างห้วงอากาศ และแนวทางบริหารจัดการ ให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบิน และนักท่องเที่ยว ให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย” นายสุรพงษ์ กล่าว

วิทยุการบิน
วิทยุการบินฯ หนุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีการเดินอากาศ ปรับปรุงโครงสร้างห้วงอากาศ รองรับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้วิทยุการบินฯ เตรียมความพร้อมระบบการบริหารจัดการจราจรทางอากาศใหม่ และจัดเตรียมสถานที่ สำหรับติดตั้งระบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดการณ์ว่า จะมีเที่ยวบินประมาณ 2 ล้านเที่ยวบิน ในปี 2581

โดยให้เตรียมความพร้อม ด้านบุคลากรปรับปรุงเส้นทางบิน และออกแบบห้วงอากาศ ให้เหมาะสม รวมทั้งนำแนวทางปฏิบัติการบริหารจัดการความคล่องตัว การจราจรทางอากาศ หรือ ATFM มาใช้บริหารจัดการเที่ยวบิน และเตรียมวางระบบบริหารจราจรทางอากาศสำรอง (Off-site Backup) ตามแผนรองรับภาวะฉุกเฉิน ด้านบริการจราจรทางอากาศ

เพื่อให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เป็นการขับเคลื่อนให้ประเทศไทย มีระบบการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ที่มีศักยภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน และการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีการบินของโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“วิทยุการบินฯ ได้เตรียมพร้อมยกระดับการให้บริการทุกด้าน โดยใช้ศักยภาพ และความเชี่ยวชาญด้านการบิน ที่มีอยู่เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในการสร้างประโยชน์ และสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้ประเทศชาติ ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ที่มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค (Aviation Hub)”

ผุดการบินคู่ขนาน รองรับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม 2 แสนเที่ยว/ปี

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า วิทยุการบินฯ ได้เตรียมความพร้อม และกำหนดมาตรการให้บริการจราจรทางอากาศ ความพร้อมในการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Flow Management) เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สำหรับการทำการบินคู่ขนาน จะทำให้รองรับปริมาณเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 เที่ยวบิน/ปี จากเดิมรองรับได้ 100,000 เที่ยวบิน/ปี ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับทุกเที่ยวบิน ที่เข้ามาในน่านฟ้าไทย ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัยสูงสุด

“วิทยุการบินฯ ได้เตรียมแนวทางวิธีปฏิบัติการ ให้บริการจราจรทางอากาศ เพื่อรองรับการเพิ่มขีดความสามารถของสนามบิน ตามโครงการพัฒนา และขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ได้แก่ การเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองระยะไกล หลังที่ 1 หรือ SAT-1 และการใช้งานทางวิ่งเส้นที่ 3 ที่จะเปิดให้บริการฯ ในช่วงเดือน กันยายน 2567

รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้งานทางวิ่ง หรือ High Intensity Runway Operation (HIROs) ซึ่งเป็นการจัดระยะห่างของอากาศยานขาเข้าและขาออก ให้ได้เทียบเท่าสนามบินชั้นนำของโลก ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้สูงสุดเท่าที่ขีดความสามารถของสนามบินจะรองรับได้

อีกทั้งได้นำเทคโนโลยี มาบริหารจัดการเที่ยวบินขาเข้า คือ ระบบ Arrival Manager (AMAN) และการจัดการเที่ยวบินขาออกด้วยระบบ Intelligent Departure (iDep) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ และทำให้เที่ยวบินสามารถทำการบินได้ตรงเวลาตามตารางการบิน เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้มากที่สุด

หนุนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินภาคตะวันออก

ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมเรื่องการส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางการบิน ว่า นอกจากนี้ วิทยุการบินฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนา สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ระยะเริ่มต้น (Phase 0) เพื่อสนับสนุนการบิน มุ่งเน้นการขนส่งสินค้าทางอากาศ จากเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

โดยเฉพาะเที่ยวบินจากจีน และการพัฒนาส่งเสริมให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในอนาคตและจะทำให้เกิดศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ Logistics & Aviation ซึ่งได้นำแนวคิด Aerotropolis นี้ มาจากต้นแบบ คือ สนามบินนานาชาติเฉิงตู เทียนฟู่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์

“การที่วิทยุการบินฯ ต้องให้บริการในระดับสากล จึงจำเป็นต้องมาศึกษาเรียนรู้ข้อมูล การพัฒนาเทคโนโลยี การบริหารจัดการสนามบินต่าง ๆ เพื่อพัฒนาบริการของวิทยุการบินฯ ในทุกด้านต่อไป” นายณพศิษฏ์ กล่าว

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “สุรพงษ์” สั่งวิทยุการบิน ลุยพัฒนาอู่ตะเภา รับนักท่องเที่ยวจีน