ไม่อยากเชื่อ!…ผู้โดยสารโวยถูกการบินไทย ปฎิเสธคุณแม่ ขึ้นเครื่องจากสนามบินคุณหมิง ทั้งที่แจ้ง Service วีลแชร์ Cabin ทั้งขา ขึ้นเครื่องและลงเครื่องแล้ว ทั้งๆที่มี Fit to Fly จากโรงพยาบาล และใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลลี่เจี่ยง พร้อมจี้บินไทยรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยด่วน!
- ทั้งๆที่มี Fit to Fly จากโรงพยาบาล
- และใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลลี่เจี่ยง
- พร้อมจี้บินไทยรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยด่วน!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรศักดิ์ ศรัทะวงศ์ ซึ่งเป็นผู้โดยสารการบินไทยแจ้งว่าเขาและคุณแม่ถูกสายการบินไทยปฎิเสธ การขึ้นเครื่องจากสนามบินคุนหมิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนายสุรศักดิ์ แจ้งว่าคุณแม่เกิดอุบัติเหตุล้ม เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ประเทศจีน ไม่ได้ผ่าตัดเป็นการรักษาแบบลดอาการบวมที่เข่า ต้องการให้เท้าหายบวมก่อน ได้ตัดสินใจที่จะไม่ผ่าตัดที่ประเทศจีน แต่จำเป็นต้องพาคุณแม่กลับประเทศไทย
อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่จีน ว่า จะขอกลับไปผ่าตัดที่เมืองไทย เพราะการสื่อสารระหว่างคนไข้กับหมอน่าจะง่ายกว่า ทางโรงพยาบาลลี่เจียง ก็ตกลงที่จะออกใบรับรองแพทย์ให้ จากนั้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ก็ได้จองตั๋วเครื่องบินกับการบินไทยเพื่อจะพาคุณแม่กลับมารักษาเมืองไทย ได้จองตั๋วชั้นธุรกิจ หรือ Business Class เพื่อต้องการให้คุณแม่ได้นั่งสบายๆ หลังจากซื้อตั๋วแล้วมีการแจ้ง Service วีลแชร์ Cabin ทั้งขา ขึ้นเครื่องและลงเครื่อง ฝั่งพนักงาน ก็รับ service ปกติ ก็ไม่ได้มีการปฎิเสธใดๆ
ต่อมาเมื่อถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันที่ต้องบินกลับเมืองไทย ตนกลัวจะมีปัญหาฝั่งจีน เลยได้ติดต่อมายัง โรงพยาบาลเมดพาร์ค เพื่อขอให้ออก Fit to Fly หรือใบรับรองแพทย์ที่สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ ซึ่งทางคุณหมอโรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้ดูฟิล์มคุณแม่และได้พูดคุยกันแล้วคุณหมอก็รู้ขั้นตอนทุกอย่างว่าจะทำอะไรก็ได้รับเคสนี้แล้ว ทางโรงพยาบาลเมดพาร์ค ก็ออก Fit to Fly ให้ แต่พอไปเช็คอินท์ที่สนามบินคุณหมิง กลับถูกปฎิเสธ ทั้งๆ ที่ตนและคุณแม่เดินทางมาจากลี่เจียง เพื่อมาขึ้นเครื่องการบินไทยที่คุณหมิง
“สภาพการบาดเจ็บของคุณแม่สามารถสามารถยกแขน ขา งอเข่าได้พอสมควร คุณแม่นั่งวีลแชร์ได้ปกติ แต่พอไปเช็คอิน เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์การบินไทย ก็ปฎิเสธขึ้นเครื่อง อ้างแต่จะให้ล้มที่นั่งด้านหลัง 10 ที่ถึงจะให้ขึ้นได้ ต้องดำเนินการ 3 วัน แต่ต้องซื้อตั๋วใหม่ หากทำตามนี้ต้องเสียเงินซื้อตั๋วอีกประมาณ 3-4 แสนบาท จริงๆผมได้ทำถูกต้องตามหลักการบินทุกอย่างแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ปฎิเสธอย่างเดียว” นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่ามีการพูดคุยกันนานแต่ก็ไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ จำเป็นต้องไปหาสายการบินอื่น ที่จะเดินทางกลับไทย ปรากฎว่าทุกสายการบินของจีน สามารถขึ้นเครื่องได้หมด แต่บางสายการบินเวลาที่จะเดินทางไปได้ เช่น ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ เขาก็รับ แต่จะบินตอนเวลา 22.00 น. ไม่ได้บินด้วยเพราะต้องรอนานเกรงว่าคุณแม่จะปวดหนัก เลยไปใช้บริการกับสายการบินลัคกี้แอร์ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนยังไม่ได้ติดต่อหรือสอบถามไปทางการบินไทย แต่อยากแจ้งทางสื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตนอยากให้การบินไทยรับผิดชอบ คืนเงินเต็มจำนวนค่าตั๋วที่ซื้อไป ตนยังมีค่าใช้จ่ายรถอีเมอร์เจนซี่ จากโรงพยาบาลที่ต้องมารออยู่หลายชั่วโมง ทุกอย่างก็รวนไปหมด “ผมว่าการบินไทยต้องออกมาขอโทษด้วย รับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น จะต้องไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกที่ประเทศจีน การบินไทยไม่ได้ผิดอะไร แต่ที่ผิดคือพนักงาน เอ้าท์ซอร์ส Ground Manager ต้องออกมารับผิดชอบด้วย เพราะเป็นต้นตอการปฎิเสธ ผมเองก็ถามการบินไทยสำนักงานใหญ่ ก็โยนเรื่องให้หน้างานตัดสินใจ ผลที่ออกมาก็เป็นแบบนี้”
