ตร. เตือนอย่าทำ! ใช้ AI ผลิตสื่อลามกจากหน้าผู้อื่น โทษสูงสุดคุก 5 ปี

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน พฤติกรรมผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกปลอมสร้างด้วย AI ที่ใช้หน้าผู้อื่น เข้าข่ายความผิดทางอาญา 6 ฐาน โทษสูงสุด คุก 5 ปี ปรับ 200,000 บาท ผู้เสียหายฟ้องเรียก “ค่าสินไหมทดแทน” ได้

  • คุก 5 ปี ปรับ 200,000 บาท
  • ผู้เสียหายฟ้องเรียก “ค่าสินไหมทดแทน” ได้

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกลุ่มมิจฉาชีพได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้ในการสร้างเนื้อหาปลอมขึ้นเพื่อใช้ในการฉ้อโกง หรือสร้างความเสียหายในปัจจุบัน

ยิ่งไปกว่านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการสร้างสื่อลามกปลอม โดยนำภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง ตลอดจนบุคคลทั่วไป มาใช้เป็นใบหน้าตัวอย่างให้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำไปสร้างคลิปหรือภาพลามกที่ปรากฎหน้าของบุคคลดังกล่าวขึ้น และนำไปเผยแพร่ต่อ หรือขายผ่านช่องทางต่าง ๆ

โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับ ผู้ที่ผลิต เผยแพร่ และส่งต่อสื่อลามกปลอมที่สร้างด้วย AI จะเข้าข่ายความผิดทางอาญา 6 ฐาน ตามกฎหมายดังต่อไปนี้

1. ความผิดฐาน “หมิ่นประมาท” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326

2. ความผิดฐาน “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328

3. ความผิดฐาน “ผลิต มีไว้ ซึ่งสื่อลามก เพื่อการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287(1)

4. ความผิดฐาน “โฆษณาหรือไขข่าวว่าจะหาสื่อลามกได้จากบุคคลใด หรือวิธีการใด” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287(3)

5. ความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(4) หรือ มาตรา 14(5) แล้วแต่กรณี

6. ความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16

นอกจากความผิดทางอาญาที่ได้กล่าวไปข้างต้น ผู้เสียหายที่ถูกนำภาพมาใช้เป็นภาพใบหน้าของบุคคลในสื่อลามกดังกล่าว ยังสามารถฟ้องเรียก “ค่าสินไหมทดแทน” จากผู้ที่กระทำ “ละเมิด” ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 อีกด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนมายังพี่น้องประชาชน ที่นำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นสนุก หรือหยอกล้อผู้อื่น รวมไปถึงผู้ที่ผลิตหรือพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อนำมาใช้ผลิตสื่อลามกจากภาพใบหน้าของบุคคลอื่น เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ให้หยุดการกระทำในลักษณะดังกล่าวทันที เพราะการกระทำของท่านเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย และต้องระวางโทษสูงสุดถึง จำคุก 5 ปี และ ปรับสูงสุดถึง 200,000 บาท

ส่วนผู้ที่คิดจะซื้อสื่อลามกของบุคคลมีชื่อเสียง ท่านอาจถูกหลอกจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างสื่อลามกดังกล่าว

สุดท้าย หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง