คมนาคมจับมือ กทม.ยกระดับการคมนาคมช่วยคนพิการ



กระทรวงคมนาคมจับมือหน่วยงาน กทม. เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ด้านคมนาคมทุกภาคส่วนสำหรับผู้พิการ พร้อมดันนโยบายที่เกี่ยวข้อง-ปรับแก้ หวังให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

  • คมนาคมจับมือหน่วยงาน กทม. 
  • ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ด้านคมนาคม
  • พร้อมปรับแก้ หวังให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ด้านคมนาคมสำหรับผู้พิการและผู้เปราะบางทุกภาคส่วน โดยภายในวันนี้(13 มี.ค.67) ได้จัดประชุมกับทางหน่วยงานของ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เพื่อบูรณาการแผนงานร่วมกัน  ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายได้จัดเตรียมบุคลากรในการจัดตั้งคณะกรรมการ ในการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งคาดว่าภายในเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุป

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้ความให้สำคัญอย่างมากต่อประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่อาศัยอยู่ในประเทศและนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ดังนั้นทุกหน่วยงานจึงได้เร่งผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องออกมาให้เป็นรูปธรรม ขณะที่กฎระเบียบเดิมด้านคมนาคม ไม่ว่าจะเป็น ทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ อาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการยืดหยุ่นและให้กลุ่มผู้เปราะบางสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

“สำหรับคณะทำงานที่จะจัดตั้งขึ้นนั้น จะพัฒนาด้านคมนาคมในทุกภาคส่วนที่ให้กลุ่มผู้พิการทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ และได้รับการบริการอย่างเสมอภาค ไม่ใช่เพียงการพัฒนาในด้านทางบก และทางอากาศ แต่ทุกหน่วยงานจะพัฒนาทั้งกลุ่ม เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายพงศ์กวิน กล่าว

ด้านนายภาณุมาศ สุขอัมพร ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยต่อว่า  นอกจากการจัดตั้งคณะกรรมการในการดำเนินงานรวมกันแล้วนั้น ยังได้หารือถึงการดัดแปรงรถสาธารณะ สำหรับใช้ติดตั้งลิฟท์วิลแชร์ หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ โดยทางกระทรวงคมนาคมและทาง ขบ. ได้รับทราบถึงปัญหา พร้อมได้จัดเตรียมแผนงานและหาแนวทางทั้งในเชิงของการจดทะเบียน และลดหย่อนภาษี เป็นต้น เพื่อให้ผู้พิการที่มีรายได้น้อยสามารถใช้บริการได้ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป

พร้อมกันนี้ทางหน่วยงาน กทม. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับทางกระทรวงคมนาคม และพร้อมที่จะผลักดันด้านการเอื้ออำนวยความสะดวกต่อผู้พิการ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องมีการเจรจากับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือและปรึกษาหาแนวทางเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นต่อไป