

“มนพร”ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบัง - พร้อมเร่งรัด ทลฉ. เฟส 3 พบงานถมทะเลคืบหน้า 22.01% ด้าน กทท.เร่งเพิ่มเครื่องจักรและผลิตหิน สปีดงานเดือนละ 4% มั่นใจส่งมอบพื้นที่ มิ.ย.นี้ และส่งมอบพื้นที่ F1 ให้ GPC ปลายปี 68 เตรียมเปิด PPP หาผู้ประกอบการท่า A5 (ขนส่งรถยนต์)
- พบงานถมทะเลคืบหน้า 22.01%
- ด้าน กทท..ให้เร่งสปีดงานเดือนละ 4%
- มั่นใจส่งมอบพื้นที่ มิ.ย.นี้
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม (รชค.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง(ทลฉ.) ระยะที่ 3 พร้อมติดตามการดำเนินการสรรหาเอกชนร่วมลงทุนใหม่ตาม พรบ. ร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2562 ของท่าเทียบเรือA5 โครงการ SRTO และโครงการท่าเทียบเรือ A ว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อตรวจความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการต่างๆ โดยหวังว่า เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ของท่าเรือในการรองรับความต้องการการขนส่งสินค้าทางทะเล ตลอดจนพัฒนาโครงข่ายและระบบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 กิจการร่วมค้า CNNC สามารถดำเนินงานได้แล้วที่ 22.01%
ทั้งนี้ กิจการร่วมค้าฯได้แจ้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานว่าจำนวนหินที่ใช้ในโครงการฯ และเครื่องจักรยังมีไม่เพียงพอ จึงมีแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยการประสานเหมืองหินให้เร่งผลิตหินให้เพียงพอภายในเดือนนี้ และได้เพิ่มเครื่องจักรในการทำ Geotube ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการก่อสร้างคันหินล้อมพื้นที่ และในส่วนของงานถมทะเลได้เพิ่มเรือ Grab Dredger เข้ามาช่วยในการขุดลอก
อย่างไรก็ตาม กิจการร่วมค้าฯ ได้นำเสนอแผนเร่งรัดงานให้ทันตามแผน 4.0 โดยภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2567 วันที่ครบกำหนดส่งมอบพื้นที่ถมทะเล 3 จะต้องมีความก้าวหน้าสะสมอย่างน้อย 35.87% เพื่อให้สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 มีความก้าวหน้าสะสม 37.77%
ดังนั้นนับจากเดือนมีนาคมนี้จะต้องดำเนินการให้ได้ความก้าวหน้าประจำเดือนอย่างน้อย 4.04 % ทั้งนี้ กิจการร่วมค้า CNNC มั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ถมทะเล 3 ได้ทันภายในเดือนมิถุนายน 2567 นี้ และจะส่งมอบพื้นที่ F1 ของโครงการฯ ให้แก่บริษัทเอกชนคู่สัญญาได้ภายในปลายปี 2568 และกำหนดส่งมอบแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ ในปี 2569
สำหรับการดำเนินการสรรหาเอกชนร่วมลงทุนใหม่ตาม พ.ร.บ ร่วมลงลงทุนฯ พ.ศ.2562 ของท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือสำหรับขนส่งรถยนต์ มีความยาวหน้าท่า 527 เมตร และมีขีดความสามารถขนถ่ายรถยนต์ 700,000 คัน/ปี โดยบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 เมษายน 2569
ซึ่งภายหลังสิ้นสุดสัญญาต้องดำเนินการเป็นโครงการร่วมลงทุนใหม่ ทั้งนี้ กทท.ได้จัดทำรายงานผลการศึกษาฯ และหลักการโครงการฯ เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ PPP และรอผลสรุปจากที่ประชุม โดย สคร. จะแจ้งให้ทราบผลต่อไป

ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันของโครงการ SRTO ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 600 ไร่ บริเวณถ้าเทียบเรือ B กับ C มีจำนวนรวม 6 ราง สามารถจอดรถไฟได้สูงสุด 8 ขบวน รองรับตู้สินค้าสูงสุด 2 ล้านTEU ต่อปี ได้จัดทำแผนดำเนินการเพิ่มเติมจำนวน 3 แผน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และปริมาณการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟของ กทท. ดังนี้
- จ้างเหมาบริการ Reach Stacker จำนวน 2 คัน ภายในเดือนเมษายน 2567
- จ้างเหมาเปลี่ยนสายไฟฟ้า (Cable Reel) ของ RMG จำนวน 2 คัน ภายในเดือนกรกฎาคม 2568
- จ้างเหมาสร้าง RMG จำนวน 2 คัน และ RTG จำนวน 4 คัน (จัดหาเครื่องมือระยะที่ 2)
