DITP ชี้เป้าไทย เร่งส่งออกผลไม้กระป๋องบุกตลาดจีน ฑูตพาณิชย์โชว์สถิติสินค้าไทยโต 8% ครองตลาดกว่า 25%

  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะเอกชนไทยเร่งส่งออก “ผลไม้กระป๋อง” ชิงตลาดจีนโตแรง
  • ฑูตพาณิชย์ไทยในเซียะเหมินโชว์ปี’65 จีนนำเข้าผลไม้กระป๋องไทยสูงถึง 42 ล้านดอลล์ โต 8.45% ครองตลาด 25.55%

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯมอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปในแต่ละประเทศอยู่ ล่าสุด น.ส.นันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เมืองเซียะเหมินสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รายงานถึงแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องไทยได้รับโอกาสจากตลาดจีนหลั่งไหลเข้าไปเป็นจำนวนมากซึ่งนำทดแทนในช่วงจังหวะที่จีนยังไม่สามารถผลิตได้

เนื่องจากจีนยังมีข้อจำกัดในการผลิตสินค้าอาหารกระป๋องบางชนิด ดังนั้นจึงยังต้องพึ่งพาการนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าผลไม้กระป๋อง เพราะจีนไม่มีความหลากหลาย เช่น เงาะกระป๋อง ลำไยกระป๋อง และลูกตาลกระป๋อง จึงเป็นโอกาสสำหรับผลไม้กระป๋องจากไทยที่มีโอกาสในการขยายตลาดเข้าสู่จีนได้เพิ่มขึ้นในปี 2566 เป็นต้นไป

ซึ่งจีนจะเป็นตลาดสำคัญของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารกระป๋องในภูมิภาคเอเชีย วิเคราะห์ได้จากสถิติปี 2565 จีนนำเข้าผลไม้กระป๋องมูลค่า 165 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.39% แต่จีนกลับนำเข้าผลไม้กระป๋องจากไทยมูลค่าสูงสุดถึง 42 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.45% คิดเป็น 25.55% ของการนำเข้าทั้งหมดส่วนประเทศอื่นมียอดนำเข้ารองลงไปตามลำดับได้แก่ เกาหลีใต้ 41 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนแบ่งตลาด 24.82% ฟิลิปปินส์ 37 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนแบ่งตลาด 22.76%

ตามที่ น.ส.นันท์นภัส ได้นำข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องของจีนระบุชัดเจนตั้งแต่ปี 2565 อาหารกระป๋องในจีนมีมูลค่าแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี โดยจีนเองมีปริมาณการส่งออกสินค้าอาหารกระป๋องสูงถึง3.125 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% มูลค่า 6,890 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% ในจำนวนนี้เป็นสินค้าอาหารกระป๋องประเภทผักและผลไม้มีส่วนแบ่งตลาดการส่งออกสูงสุด รวมทั้งอาหารสำเร็จรูปกระป๋องและเห็ดกระป๋อง การส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไปยังตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย เยอรมนี และ ญี่ปุ่น และอื่น ๆ

ขณะที่ “ตลาดภายในประเทศจีน” พบว่าผู้บริโภคบางรายยังคงมีอคติกับอาหารกระป๋อง จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่อุตสาหกรรมกระป๋องหลายแห่งนิยมการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ แต่ปัจจุบันความต้องการอาหารของคนอยู่ลำพังคนเดียวประกอบกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ต้องเร่งรีบ ทำให้กลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวจำนวนมากเริ่มยอมรับอาหารกระป๋องเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ เท่านั้น แต่ยังเริ่มมีอาหารสำเร็จรูปเพียงแค่เปิดแล้วอุ่นพร้อมรับประทานเหมือนอาหารที่ทำเสร็จใหม่ก็ได้รับความนิยมสูงขึ้นตามลำดับ ทำให้อุตสาหกรรมพากันพัฒนาอาหารกระป๋องให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น และเข้มงวดกับความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งการปรับปรุงมาตรฐาน การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิต

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen