ครบกำหนดกันไปแล้ว ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตให้ ทางพรรค ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คดี ยุบพรรคก้าวไกล กรณีมาตรา 112
ยุบพรรคก้าวไกล ลุ้น!ไม่นานเกินรอ
โดยเรื่องนี้เป็นผลพวงมาจาก เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และ “พรรคก้าวไกล” มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากกรณี เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 เป็นนโยบายหาเสียง
คำกล่าวในครั้งนั้นเป็นไฮไลท์ที่กล่าวขานกันในสังคมการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายว่า เป็นการเซาะกร่อน บ่อนทำลาย เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง เข้าลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากปล่อยให้กระทำการดังกล่าวต่อไป ย่อมไม่ไกลเกินเหตุนำไปสู่การล้มล้างการปกครองฯ
ฉะนั้น จึงสั่งให้ “พิธา” และพรรคก้าวไกล เลิกการกระทำ เลิกแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา การสื่อความหมาย การชุมนุม จัดกิจกรรม รณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์
เมื่อมีหัวเชื้อดังกล่าว ทั้งกกต. และนักร้องการเมือง จึงหยิบตรงนี้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้สั่ง ยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นเวลา 10 ปี
กระทั่ง 3 เม.ย. ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องคดี ยุบพรรคก้าวไกล ไว้พิจารณาวินิจฉัย ระหว่างนั้น “ก้าวไกล” ขอขยายระยะเวลาชี้แจง 2 ครั้ง ซึ่งศาลฯเห็นชอบ กระทั่งเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2567 เป็นวันสุดท้ายของการชี้แจง จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญจะกำหนดวันในการวินิจฉัยตัดสิน
ถ้า ยุบพรรคก้าวไกล ใครจะโดนบ้าง
ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าให้ ยุบพรรคก้าวไกล และกก.บห.ต้องโทษแบนการเมือง จะมีกก.บห. 11 คน ที่รับผล ประกอบด้วย พิธา, ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์, ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกุล, ปดิพัทธ์ สันติภาดา, สมชาย ฝั่งชลจิตร, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, อภิชาต ศิริสุนทร, เบญจา แสงจันทร์, สุเทพ อู่อ้น และอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์
ถึงนาทีนี้หลายคนอยากรู้แนวโน้มคำวินิจฉัยของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ในทางการเมืองว่ากันว่า ก้าวไกล ไม่รอดแน่ ซึ่งแกนนำพรรคก็ทราบดี ว่าถึงอย่างไรโดนยุบพรรคแน่นอน
เพราะศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดเจนตั้งแต่ก๊อกแรกว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ฉะนั้น ก๊อกสองก็เหลือเพียงการยุบพรรคให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยในครั้งแรกเท่านั้น
ทว่า ทีมยุทธศาสตร์ก้าวไกลเล็งเห็นมาตั้งแต่ต้นว่าวันนี้จะต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว จึงได้ตระเตรียมก้าวไกลรุ่นต่อไปไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้การเคลื่อนไหวเดินต่อไปได้
“ยุบพรรค” มุกเก่า ใช้ไม่ได้ผล
ขณะเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเกมการเมืองในการสกัดอำนาจและความรุ่งเรืองของก้าวไกล ไม่ให้มากไปกว่านี้ ด้วยการนำวิธีการเก่าๆ “การยุบพรรค” มาใช้ แต่ประวัติศาสตร์การเมือง สอนให้รู้ว่าไม่ว่าจะยุบกี่ครั้ง ก็มิอาจสามารถต้านความร้อนแรงและความนิยมในหมู่ประชาชนได้
ดูจากกรณีของพรรคไทยรักไทย เปลี่ยนเป็นพรรคพลังประชาชน สุดท้ายกลายเป็นพรรคเพื่อไทย แต่ผู้คนในสังคมยังคงชื่นชอบในผลงาน เฉกเช่นเดียวกัน อนาคตใหม่ ก้าวไกล และสุดท้ายพรรคใหม่จะไปจบอยู่ที่ชื่อใด ไม่มีใครทราบ แต่ถ้าบุคลากร สส.ยังไม่หมดแรง ถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่มาถึง ประชาชนด้อมส้ม ยังไงก็เลือกอยู่ดี
เตะตัดขา ป.ป.ช. ฟันจริยธรรม 44 สส.ก้าวไกล
นอกจากนี้ ยังต้องจับตากรณีที่มีบุคคล ร้องต่อป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมเอาผิดพฤติการณ์ของสส.ก้าวไกล 44 คน ที่ร่วมกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ด้วย
ฉะนั้น นอกจาก11 กก.บห.แล้ว ยังจะมีในส่วนนี้อีกที่โดนไปด้วย ว่ากันว่าจะพิจารณาการกระทำเป็นรายบุคคลว่าเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 หนักหน่วงเพียงใด
ซึ่งในชุด 44 คนนี้ มีดาวเด่นก้าวไกลเพียบ อาทิ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ธีรัจชัย พันธุมาศ ญาณธิชา บัวเผื่อน ศิริกัญญา ตันสกุล ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ณัฐวุฒิ บัวประทุม ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ วาโย อัศวรุ่งเรือง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รังสิมันต์ โรม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ เป็นต้น
ขืนตัวจี๊ดก้าวไกล ถูกป.ป.ช. ฟันจริยธรรมอื้อ เหลือไว้แต่ปลาซิวปลาสร้อย แผนการดำเนินการของพรรคก้าวไกลที่วางไว้ อาจสะดุดหยุดลง และระยะเวลาปั้นดาวดวงใหม่ก็จะกระชั้นเข้ามาทุกที เพราะตามกฎหมายกำหนดกรอบให้ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบจริยธรรม ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ผ่านมา
สรุป วันนี้-นาทีนี้ ก้าวไกล นอนในโรง จะเหลือก็แต่ ศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสินใจตอกตะปูปิดฝาโรงหรือไม่ อย่างไร และเมื่อไหร่ รอดู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องยุบพรรคก้าวไกล
