เซ็นทรัลพัฒนา เผย Q1 รายได้ 12,234 ล้าน กำไร4,154 ล้าน โต 28%

CPN แจ้งผลประกอบการ
เซ็นทรัลพัฒนา แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรก 2567 กำไรสุทธืเติบโต 28%

เปิดปี 2567 อย่างแข็งแกร่ง เซ็นทรัลพัฒนา โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 หรือ Q1 รายได้รวม 12,234 ล้านบาท โต 19% และกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท โต 28% จากปีก่อน

  • เซ็นทรัลพัฒนา ชูความสำเร็จเปิด 2 โครงการมิกซ์ยูสใหม่ต่อเนื่อง เซ็นทรัล นครสวรรค์ ยกระดับเมืองใหม่แห่งภาคกลางตอนบน และล่าสุด เซ็นทรัล นครปฐม แลนด์มาร์กใหญ่ที่สุดแห่งแรกใจกลางนครปฐม
  • เดินหน้าแผนพลิกโฉมรีเทลครั้งยิ่งใหญ่ พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสบน Super Prime Locations ในกรุงเทพฯ ประเดิมโครงการแรก ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า เตรียมเปิดกลางปี 2568 และ เซ็นทรัล กระบี่ เติมเต็ม Retail Lifestyle ให้เมืองท่องเที่ยวระดับโลก เตรียมเปิด H1/2568
  • ย้ำ “องค์กรยั่งยืนเบอร์หนึ่งระดับโลก” ด้วยคะแนนสูงสุดอันดับ 1 DJSI World 2023 จากทั้งหมด 299 องค์กร ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 12,234 ล้านบาท โต 19% และกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท โต 28% จากปีก่อน ชูความสำเร็จ เปิดโครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล นครสวรรค์ พลิกโฉมยกระดับเมืองใหม่แห่งภาคกลางตอนบน และเซ็นทรัล นครปฐม แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของเซ็นทรัลพัฒนา (รวมเอสพละนาด และเมกา บางนา) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยโมเดลธุรกิจ The Ecosystem For All พัฒนาโครงการสร้างย่านการค้ากรุงเทพฯและต่างจังหวัดทั้งเมืองหลักและเมืองรอง 

CPN รายงานผลประกอบการ
เซ็นทรัลพัฒนา รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยงบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การบริโภคภาคเอกชนของไทยถูกขับเคลื่อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น โครงการ Easy E-Receipt อีกทั้ง ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมีแน้วโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และความชัดเจนในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ยิ่งไปกว่านั้นการดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจแบบผสม (Mixed-use Development) ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ

โดยเฉพาะธุรกิจที่พักอาศัยที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า โดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,234 ล้านบาท โต 19% และกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท โต 28% จากปีก่อน”

สำหรับกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญในไตรมาส 1 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการศูนย์การค้าต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 และเซ็นทรัล นครปฐม เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ภายในโครงการได้รับการออกแบบที่ผสมผสานกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมด้วยร้านค้าชั้นนำที่ครบครันในการตอบโจทย์ทุกกิจกรรม พร้อมทั้งได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และนครปฐม ในวันเดียวกับการเปิดตัวศูนย์การค้า

โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานี้ การจองซื้อของทั้ง 2 โครงการ ได้รับการตอบรับดี นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวโครงการบ้านนิรดา วงแหวน-เอกชัย ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอีกด้วย

เซ็นทรัลพัฒนา ยังคงวางแผนระยะยาวในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในแผน 5 ปีตั้งแต่ปี 2567-2571 วางแผนลงทุนทั้งสิ้น 121,000 ล้านบาท และในปี 2567 นี้ จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม ซึ่งดำเนินการเปิดทำการเรียบร้อยแล้ว

โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง ซึ่งจับมือกับ International Chain ระดับโลก พร้อมทั้งเตรียมสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก “The World’s New Magnitude” ขยายย่านการค้าและธุรกิจในกรุงเทพฯ อีกหลายมุมเมือง เหมือนโมเดลเมืองใหญ่ทั่วโลก

โดยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสจำนวน 5 โครงการ มีพื้นที่ทุกโครงการรวมกันกว่า 2.2 ล้าน ตร.ม. และทั้งหมดนี้ อยู่บน Super Prime Locations รอบกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า แต่ละโครงการจะเป็น Flagship ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในอนาคต และจะเป็น Landmark ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เตรียมพบกับโครงการแรกคือ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก โดยพร้อมเปิดส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park ในปีหน้า 2568

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

: https://www.centralpattana.co.th/th/home

: เซ็นทรัลพัฒนาเผยปี66 มีรายได้ 46,790 ล้านบาท เติบโต 26% และกำไรสุทธิ 15,062 ล้านบาท โต 40% ปันผลนิวไฮ 1.80 บาท