ซีพี ออลล์ เผยไตรมาสแรก ยอดขายรวม 2.4 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 8.5%

ซีพี ออลล์ แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรก
ซีพี ออลล์ แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรก2567 ยอดขาย 2.4 แสนล้าน กำไร 6.3 พันบ้าน

ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น เผยยอดขายไตรมาสแรก 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท เติบโต 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า เติบโตทุกกลุ่ม สาหตุจากการบริโภคในประเทศขยายตัว ท่องเที่ยวเติบโตและมาตรกระตุนเศรษฐกิจ

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2567 โดยบริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 6,319 ล้านบาท โดยสรุปสาระสาคัญได้ ดังนี้ รายได้รวม 241,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 8.5

โดยมีสาเหตุมา จากการปรับเพิ่มขึ้น ของรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ตามการบริโภคภายในประเทศที่ยังมีการขยายตัว ซึ่งขับเคลื่อน โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ และ การท่องเที่ยวรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงต้นปีที่สร้างบรรยากาศที่ดีในการจับจ่ายใช้สอย

นอกจากนี้กลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยเสริมในการเติบโตของรายได้อีกทางหนึ่งด้วย กำไรขั้นต้น ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัท ฯ มีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 52,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น รวมถึงความสาเร็จ ในกลยุทธ์ด้านสินค้า ซึ่งไม่เพียงส่งมอบสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังนำเสนอสินค้าที่แตกต่างเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอีกด้วย 

ส่งผลให้อัตรากาไรขั้นต้นในงบการเงินรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.3 จากร้อยละ 21.7 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ไตรมาสแรก ปี 67 มีสาขาใหม่ 185 สาขา
ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มีสาขาล่าสุด 14,730 สาขา

มีสาขารวม 14,730 สาขา เพิมขึ้น 185 สาขา

ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 185 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567

บริษัทฯ มีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,730 สาขา แบ่งเป็น

(1) ร้านสาขาบริษัท 7,485 สาขา (ประมาณร้อยละ51) ร้านเปิดใหม่สุทธิ 149 สาขา ในไตรมาสนี้

(2) ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 7,245 สาขา (ประมาณร้อยละ 49) ร้านเปิดใหม่สุทธิ

 36 สาขา ในไตรมาสนี้ ร้านสาขาส่วนใหญ่ยังเป็นร้านที่ตั้งเป็นเอกเทศ ซึ่งประมาณร้อยละ 86 ของสาขาทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.

ในไตรมาส 1 ปี 2567 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 105,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ

82,619 บาท และยอดขาย เฉลี่ยของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 4.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 85 บาทในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 972 คน

ทั้งนี้ ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้มาตรการของรัฐก็มีส่วนช่วยสนับสนุนเช่นกัน ซึ่งธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้ใช้แผนกลยุทธ์ที่สอดรับกับสถานการณ์ตลอดเวลา โดยคำนึงถึงการรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ โดยนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ พร้อมกับโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา

ประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าส่วนเพิ่มผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Delivery และ All Online ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาวะปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 11 ของ

รายได้จากการขายสินค้ารวมในไตรมาส 1 ปี 2567 สัดส่วนของรายได้จากการขาย ร้อยละ 75.2มาจากสินค้ากลุ่มอาหาร และ เครื่องดื่ม และร้อยละ 24.8 มาจากสินค้าอุปโภคซึ่งสัดส่วนรายได้ในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และ กลุ่มสินค้าอุปโภค นั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับปี 2566

โดยบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ 1 ในใจลูกค้าเมื่อนึกถึงอาหา รและ เครื่องดื่ม ตามสโลแกน ‘หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา’ และ ‘หิวเมื่อไหร่ก็สั่งเลยสาหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกที่และทุกเวลาในไตรมาส 1 ปี 2567

ขยายสาขาใหม่ในลาวต่อเนื่อง
ตั้งเป้าขยายสาขาใหม่ในลาวต่อเนื่อง

ร้านสะดวกซื้อกำไรขั้นต้น 30,378 ล้านบาท 

ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีกำไรขั้นต้นจำนวน 30,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3,950 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 14.9 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับร้อยละ 28.7 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2566 ที่อัตราส่วนร้อยละ 27.9

สาเหตุหลักมาจาก การปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าตามที่กล่าวมาข้างต้น รวมถึงให้ความสำคัญต่อการบริหารอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้า โดยพยายามเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากาไรขั้นต้นสูงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อยังมีรายได้อื่นอีกจำนวน 6,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 518 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของสาขา รายได้ค่าสิทธิและที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิในการบริหารร้าน 7-Elevenและอื่นๆ

เป้าหมายการขยายสาขาบริษัทฯวางแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้า และ บริการ ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ และ ออฟไลน์ ซึ่งรวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว และ ทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวก และ เข้าถึงความต้องการ

ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในประเทศไทยอีกประมาณ 700 สาขาในปี 2567 และ มีเป้าหมายที่จะเปิดร้านใหม่เพิ่มในประเทศกัมพูชา และ ในสปป.ลาว ในปี 2567 อีกด้วย

คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 12,000–13,000ล้านบาท โดยเปิดร้านสาขาใหม่ 3,800-4,000 ล้านบาท การปรับปรุงร้านเดิม 2,900-3,500 ล้านบาท ใช้ลงทุนโครงการใหม่, บริษัทย่อย และ ศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท สินทรัพย์ถาวร และ ระบบสารสนเทศ 1,300-1,400 ล้านบาท

ที่มา: https://www.cpall.co.th

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เปิดรายได้ เซเว่น อีเลฟเว่น ปี 66 เกือบ 4 แสนล.เพิ่มขึ้น 4.4 หมื่นล.กำไร 1.12 แสนล.