คนต่างจังหวัดเดินทางกลับภูมิลำเนาปีใหม่นี้ คงสนุกเป็นสองเท่าตัว เพราะนอกจากบรรยากาศเฉลิมฉลองแล้ว จะมีบรรดาว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และว่าที่สมาชิกอบจ.(ส.อบจ.) ไปตามสถานที่ชุมนุมชนเพื่อหาเสียงผสมโรงเพิ่มด้วย
เพราะในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ.ทั่วประเทศอย่างพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ 1 ก.พ. ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กำหนดวันไปแล้ว
จับตาการเมืองระดับประเทศ ลงมือเล่นท้องถิ่นเอง
ยิ่งจังหวัดไหนมีนักการเมืองระดับประเทศไปช่วยหาเสียงด้วย ยิ่งจะถูกจับตาเป็นพิเศษ อย่างกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ กระโดดลงมาเล่นเองในจ.ภาคเหนือกับภาคอีสาน ทั้งอุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้เป็นสนามท้องถิ่นแต่ก็ถือว่าเป็นการเช็คเรตติ้งว่าประชาชนยัง “เอา” พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณหรือไม่ในเบื้องต้นได้ด้วย ขณะเดียวกันจะถือเอาเสียงตอบรับของสนามนี้ไปวัดกับสนามใหญ่ระดับประเทศก็ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเวลายังเหลือเป็นปีๆ รวมทั้งยังมีอีกหลายปัจจัยไม่อาจสามารถควบคุม ที่จะทำให้การตัดสินใจของประชาชนในช่วงเวลานั้นเปลี่ยนแปลงไปก็ได้
ศึกชิงเก้าอี้นายกอบจ.สงขลา ฝุ่นตลบ
วนกลับมาที่เรื่องการเลือกตั้งอบจ.ของบ้านเรา บรรยากาศในส่วนของภาคใต้ก็ร้อนแรงพอๆกับเครื่องแกงใต้เช่นกัน ที่ผ่านมาช้างล้มไปแล้วที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตระกูล “เดชเดโช” บ้านใหญ่ที่ครองอบจ.นครศรีมานาน เจอสหบาทาจากหลายพรรค ว่ากันว่า “เดชเดโช” รอบนี้เจอข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้ ชาวเมืองคอนทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นมาสั่งสอน จัดให้เนื้อๆเน้นๆ
ข้ามมาที่สงขลา จังหวัดนี้วุ่นวายไม่แพ้สนามอื่น เพราะแบ่งกันเป็นหลายก๊ก อย่างน้อยๆก็มี ก๊กนิพนธ์ บุญญามณี ก๊กเดชอิศม์ ขาวทอง และก๊กถาวร เสนเนียม ซึ่งศึกรอบนี้ “นิพนธ์” จับมือเป็นการชั่วคราวกับ “เดชอิศม์” ส่ง “สุพิศ พิทักษ์ธรรม”อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ท้าชิงเก้าอี้
ส่วน “ไพเจน มากสุวรรณ์” นายกอบจ.คนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ร่อนจดหมายเปิดผนึกไม่ลงชิงในครั้งนี้ ฉะนั้น ศึกหนนี้จึงเป็นการแข่งขันระหว่าง “สุพิศ” กับสักคนในก๊กของถาวร ซึ่งขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) และพรรคภูมิใจไทย(ภท.) เป็นแนวร่วม
แต่ขณะนี้ยังหาตัวว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.ไม่ได้ และคงต้องลุ้นว่า “ถาวร” อดีตสส.หลายสมัยของสงขลา และอดีตรัฐมนตรี อดีตแกนนำกปปส. จะลงมาเล่นเองหรือไม่
ลุ้น “ถาวร” อดีตแกนนำกปปส. ปะทะ “สุพิศ” อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง
โดยก่อนหน้านี้ “ถาวร” กังวลเรื่องคดีที่ถูกฟ้องข้อหาซ่องโจร ยุยง อั่งยี่ กบฏ ซึ่งกำลังต่อสู้อยู่ในชั้นฎีกา ถ้าหากได้รับความไว้วางใจเป็นนายกอบจ. แต่ต่อมาศาลพิพากษาให้ตนจำคุก หรือให้รอลงอาญา เท่ากับว่าตนจะหลุดจากตำแหน่งนายกอบจ.ทันที และจะทำให้ประเทศชาติต้องสูญงบประมาณเพื่อจัดเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
ล่าสุด 9 ธ.ค. เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ภายหลัง ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) ทีมสงขลารวมพลังร่วมสร้างสุข ไปขอร้องให้ลงสมัครเป็นนายกอบจ. ว่า “ผมคิดแล้วคิดอีกคิดทบทวนจึงได้มอบหมายกับทีมทนายความศึกษาคดีที่ถูกฟ้องข้อหา มี 10 คน คณะทนายจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 13 ธ.ค. จากนั้นวันที่ 14 ธ.ค.ให้คำตอบ ผมจะแถลงข่าวให้ทราบว่าทนายให้ลงสมัครหรือเสี่ยงเกินไปที่จะลงสมัคร”
ทว่า ในแวดวงสงขลามีการคาดการณ์ว่า “ถาวร” อาจจะไม่ลงสมัคร เพราะด้วยปกติวิสัยของนายถาวรจะต้องมีเวลาในการเตรียมความพร้อม ขณะที่การเลือกตั้งนายกอบจ.มีเวลาให้ตัดสินใจและเตรียมตัวกระชั้นชิดเกินไป ด้วยเหตุนี้ ก๊กของ“ถาวร” จึงมีโอกาสตัดสินใจส่งคนอื่นลงแทน
ทั้งนี้ การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่ไม่นอน บางที “ถาวร” เวอร์ชั่นใหม่ก็อาจจะคิดเร็วทำเร็ว ลงเองประจัญหน้า “สุพิศ” ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง สนามอบจ.สงขลา ยิ่งน่ารับชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะกลายเป็นศึกยุทธหัตถี ช้างชนช้างครั้งใหญ่
วัดแบบรู้ดำรู้แดง ให้มันรู้ไปเลยว่า หาก “ก๊กถาวร” ชนะ เท่ากับ“ประชาธิปัตย์” แพ้ หากผลการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงตามที่ว่าไว้ ก็จะเป็นสัญญาณทำให้ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดนี้ต้องคิดหนักว่า ในการแข่งขันภาพใหญ่ระดับประเทศครั้งต่อไป พรรคจะอยู่ตรงจุดไหนของการเมืองไทยต่อไป เพราะจะกลายเป็นว่าพรรคแพ้ทั้งที่นครศรีธรรมราชและสงขลา ซึ่งเอาจริงๆทั้ง 2 จังหวัดนี้ ก็คือเมืองหลวงของประชาธิปัตย์มาก่อน เหมือนอุดรธานีที่เป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง
บทสรุปสุดท้าย เหตุการณ์ทุกอย่างจะปิดฉากลงอย่างไร 1 ก.พ.68 เลือกตั้งอบจ. รู้กัน.
เรื่องโดย : เอสเปรสโซ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ชาดา“ ลั่น รักน้องสาวที่สุดในโลก หลังเกิดรอยร้าวศึกชิง นายก อบจ. อุทัยธานี