ภูมิธรรม บินด่วนจากคาซัคสถาน กลับไทย นัดถก ครม. พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วม เดินหน้างานต่อ หลังศาลรัฐธรรมนูญฟัน เศรษฐา หลุดเก้าอี้นายกฯ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังรับทราบคำตัดสินคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีส่งผลให้ ครม. สิ้นสภาพทั้งคณะว่า ได้พูดคุยกับนายเศรษฐา โดยได้แสดงความเสียใจและเสียดายในความตั้งใจที่จะทำงานของนายกฯ แต่ก็เคารพต่อคำวินิจฉัยของศาล โดยขั้นตอนต่อจากนี้ ในฐานะรองนายกอันดับหนึ่ง จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี
โดยในวันนี้ ได้มีการเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพโดยทันที หลังเสร็จสิ้นภารกิจการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีคาซัคสถานเป็นภารกิจสุดท้าย โดยพูดคุยถึงความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าร่วมกัน ซึ่งจะเดินทางประเทศไทยในช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคมนี้
รีบดำเนินการ 3 ด้าน ประชุม ครม. ประชุมพรรคเพื่อไทย หารือพรรคร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องรีบดำเนินทันที 3 ด้าน คือ การประชุม ครม. ประชุมพรรคเพื่อไทย และหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหารือแนวทางการทำงาน หลังจากนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ตนก็มีความเป็นห่วงต่อนโยบายที่ค้างอยู่ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิตอล วอลเล็ท และการจัดทำงบประมาณ ปี 68 ซึ่งเรื่องนี้ตนก็กังวล ก็จะไปหารือกับพรรค ในรายละเอียดต่อไป
แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอยู่ 2 รายชื่อ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการประชุมกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะหารือเกี่ยวการหาแคนดิเดตนายรัฐมนตรี ของพรรคที่ตอนนี้มีอยู่ 2 รายชื่อ คือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติศิริ โดยขณะนี้พรรคมีบุคคลที่มีศักยภาพพร้อมอยู่สองคน ซึ่งนายชัยเกษมก็รับทราบว่ามีสุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาปฎิบัติช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด
ส่วนการประชุม ครม. ก็จะวางแนวทางการทำงาน และเดินหน้าทำงานต่อไป ซึ่งในสัปดาห์หน้าก็จะมีการประชุมครม. สัญจรที่พระนครศรีอยุธยา โดยอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ ซึ่งจะทำภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก็จะมีการหารือสานต่อถึงนโยบายที่จะทำร่วมกันต่อไป
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่าอย่าพึ่งคิดไปไกลเกินขนาดนี้ก็ต้องดำเนินการไปตามกฏหมายไปก่อน และจะนานแค่ไหน ตนไม่ทราบขึ้นอยู่กับประชุมรัฐสภา ส่วนประเด็นคำถามที่ว่าจะต้องมีการหารือเรื่องนี้กับนายทักษิณ ชินวัตรในฐานะที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยหรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะทุกอย่างต้องรอมติของกรรมการบริหารพรรคจากนี้ไปก็เป็นการบริหารจัดการร่วมกันของพรรคซึ่งจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศขณะที่นายกนายกคนใหม่ก็ต้องให้สภาเป็นคนตัดสินใจเพราะเป็นกลไกตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : อดีตนายกฯ เศรษฐา ลั่นเสียใจถูกมองไม่มีจริยธรรม