ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ คุ้มครองประชาชนชี้เบาะแสทุจริต

คุ้มครองประชาชนชี้เบาะแสทุจริต


ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่…) พ.ศ…. กำหนดให้รัฐกมีกลไก ให้ความ คุ้มครองประชาชนชี้เบาะแสทุจริต และช่วยเหลือแก่ผู้ให้ถ้อยคำ แจ้งข้อมูล หรือแสดงความคิดเห็นแก่ ป.ป.ช.

วันนี้ (23 กรกฎาคม 2567) นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่…) พ.ศ…. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว

และมีมติรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอว่าได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ สศก. ตรวจพิจารณาแล้ว ยืนยันให้ดำเนินการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวต่อไป ซึ่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561

โดยบัญญัติเพิ่มเติมหลักการ ในการจัดให้มีมาตรการ และกลไกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและขจัดการทุจริต และประพฤติมิชอบอย่างเข้มงวด รวมทั้งกลไกส่งเสริมให้ประชาชน รวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วม ในการรณรงค์ ให้ความรู้ ต่อต้าน หรือชี้เบาะแส โดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

พร้อมทั้งกำหนดกลไก ในการให้ความคุ้มครอง และช่วยเหลือแก่ผู้ให้ถ้อยคำ แจ้งข้อมูล หรือเบาะแส หรือแสดงความคิดเห็นแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับการกระทำ ความผิดที่อยู่ในหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในกรณีที่ประชาชนถูกร้อง ถูกกล่าวโทษ ถูกฟ้องคดี หรือถูกดำเนินการทางวินัย จากการให้ถ้อยคำ ดังกล่าว

ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้ดำเนินการ ตามแนวทาง การจัดทำและการเสนอร่างกฎหมายตามบทบัญญัติมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว โดยมีการรับฟังความคิดเห็น ก่อนเสนอครม. และในชั้นการตรวจพิจารณาของ  สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

รวมทั้งจัดทำหนังสือ เพื่อขอความคิดเห็น จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย ตามแนวทางมติคณะมนตรี (19 พฤศจิกายน 2562) เรื่องการดำเนินการ เพื่อรองรับและขับเคลื่อน การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 และได้เผยแพร่ ผลการรับฟังความคิดเห็น พร้อมการวิเคราะห์ผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย ผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบแล้ว

สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เสนอแผน ในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญ ของกฎหมายลำดับรอง ที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ จำนวน 1 ฉบับ โดยออกเป็นร่างอนุบัญญัติที่ต้องออกตามมาตรา 132/2 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการให้ความช่วยเหลือ การขอรับความช่วยเหลือ และการยกเลิกการให้ความช่วยเหลือ