ครม. ไฟเขียวงบกลางปี 68 รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินจำนวน 2.5 พันล้านสำหรับ 8 โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินแผนงานและโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 กรอบวงเงิน 2.55 พันล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้จากมติศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เห็นชอบในหลักการ กรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.28 พันล้านบาท เพื่อดำเนินงานแผนงาน และโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับข้อสังเกตจากที่ประชุม ศปช. ที่ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาการใช้งบประมาณเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรก ฟื้นฟูเกษตรกรรมที่ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วนหลังน้ำลด และระยะต่อไปในพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ และนำเสนอเข้า ครม.
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พิจารณาพื้นที่เป้าหมายจากข้อมูลพื้นที่ประสบสาธารณภัย พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จึงเสนอขออนุมัติงบประมาณจากที่ประชุม ครม. จำนวน 8 โครงการ วงเงินงบประมาณ 2.55 พันล้านบาท เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
โครงการเพื่อสร้างรายได้หรือลดรายจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย
สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อสร้างรายได้หรือลดรายจ่ายในครัวเรือนให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2567 ให้สามารถทำการผลิตได้ทันทีหลังน้ำลด เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัย ให้สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้และผลผลิตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ในระยะเวลาอันสั้น
โครงการที่สำคัญเช่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยของกรมการข้าวจำนวน 1.57 พันล้านบาท โครงการสกัดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช เชื้อรา และการสนับสนุนพันธุ์พืช และปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ ปี 2567/2568 ของกรมวิชาการเกษตร จำนวน 421 ล้านบาท
สำหรับประโยชน์ของโครงการนี้ เพื่อสร้างรายได้หรือลดรายจ่ายในครัวเรือนให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 ให้สามารถทำการผลิตได้ทันทีหลังน้ำลด เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัย ให้สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้และผลผลิตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ในระยะเวลาอันสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม. อนุมัติงบกลาง 3,045.51 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนใน 57 จังหวัด