เปิดจุดผ่อนปรนขึ้นเขาพระวิหารช่วยสร้างประชากรโลก

เปิดจุดผ่อนปรนขึ้นเขาพระวิหารช่วยสร้างประชากรโลก คู่รักหนุ่มสาวแห่งผามออีแดง เฝ้ารอวันเปิดทางขึ้นเขาพระวิหารฝั่งไทย

ห้องรับแขก JNC ขยับมาที่รหัส 002 เลยเลือกมาแบบแพ็คคู่ “ฝายน้ำ-วันปิติ สีหาพงศ์และ เติ้ล-วิชยุติ ธรรมาบุญ คู่รักมาราธอนแห่งผามออีแดง

“JNC ศรีนาคา” มีโอกาสได้ไปร่วมงานดอกลำดวนบาน ที่ศรีสะเกษ ตามคำเชิญของน้องกวาง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เลขานุการรมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย คนงาม น้ำใจดีแห่งศรีสะเกษ ยังโสด เพราะรู้ทันผู้ชายไปหมด หนุ่มๆเลยไม่กล้าจีบ แถมทำงานแคล่วคล่องว่องไว สั่งวันนี้เสร็จตั้งแต่สองวันที่แล้ว

บอกเลยค่ะว่าไปศรีสะเกษครั้งนี้ฉ่ำมาก อิ่มทั้งบุญ อบอุ่นด้วยน้ำใจ รอยยิ้มของผู้คน ความสนุกสนาน อาหารพื้นถิ่น เกือบจะปักหลักเป็นลูกสะใภ้ศรีสะเกษไปแล้ว แต่คิดได้ว่าตัวเองยังไม่ดีพอ จึงเป็นโชคดีของหนุ่มๆแถวนั้นไป

เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ อากาศร้อนแบบนี้ไม่ต้องอุ่นเครื่องกันให้มากมาย หงุดหงิดอารมณ์เสีย กันเปล่าๆ

“ฝายน้ำ-วันปิติ สีหาพงศ์และ เติ้ล-วิชยุติ ธรรมาบุญ เจ้าของ ปิติฟาร์ม

แต่นแต้นนนน…ตัดภาพมาที่ริมถนนลาดยาง ระหว่างทางขึ้นผามออีแดง

เดี๊ยน ได้เจอรีสอร์ทแนวแคมป์ปิ้ง ของคู่รัก สาวสวย-หนุ่มหล่อ “วันปิติ สีหาพงศ์” หรือ ฝายน้ำ และ วิชยุติ ธรรมาบุญ หรือ เติ้ล เลือดเนื้อเชื้อไขชาวศรีสะเกษโดยแท้

ตอนเที่ยวงานดอกลำดวนบาน กินข้าวเหนียวปิ้งเผือกไปเยอะ ต่อมเผือกเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว

พบรักกันได้อย่างไรคะ? นี่คอลัมน์ห้องรับแขก JNC นะ ไม่ใช่คู่สร้างคู่สม แทนที่จะเริ่มจากกิจการเป็นมายังไง นั่นมันเรื่องส่วนตัวเขา สบถกับตัวเองเบาๆ

คบกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วค่ะ เรียนที่เดียวกันในตัวอำเภอ คุณแม่เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนนั้นด้วย ฝายน้ำตอบแบบสาวมั่น ส่วนเติ้ลยิ้มเขินๆ พอจะเดาได้ว่าฝ่ายไหนเป็นคนคุมเกมในครอบครัว ช้างเท้าหน้าที่เชื่อฟังควาญช้างแบบนี้เจริญแน่นอน บอกเลย

“ฝายน้ำ” เล่าต่อไปว่า ช่วงเย็นของวันหนึ่งเลิกเรียนแล้ว คุณแม่บอกไม่ต้องกลับบ้าน และขาดการติดต่อจากคุณแม่ คุณพ่อเลย (อ่ะสงสัยจับได้ว่ามีแฟน โดนไล่ออกจากบ้านแน่ๆ รุนแรงขนาดนี้เลย บ้านนี้เข้มงวดมาก… มโนทุจริตเริ่มโจมตี)

ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ สมัยนั้นเกิดเหตุยิงกันระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา พ่อนอนอยู่ที่บ้านหลังนี้ ลูกระเบิดก็ลอยข้ามบ้านไปถึงหน้าโรงเรียนตรงโน้น

พูดยังไม่ทันจบ…รีบบอกน้องไปว่า เราเปลี่ยนที่คุยกันไปห่างๆจากตรงนี้กันดีไหม เสียวสันหลังวาบ

น้องฝายน้ำบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะพี่ ตรงนี้มันใกล้ ระยะยิงมันไกลจึงเลยไปหมด ไอ้เราก็กลัวลูกปืนลูกระเบิดเกิดเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เอาดื้อๆจะทำไง แต่นั้นคือเรื่องในอดีต

ทำกิจการมานานแค่ไหนแล้วทำไมถึงตัดสินใจทำ?

ทำมา4 ปี แล้วค่ะ เมื่อก่อนเรียนจบแล้ว เราทั้งสองคนก็ทำออแกไนซ์อยู่ในกรุงเทพ ระหว่างทำออแกไนซ์ชอบเที่ยว Treking เดินป่าในเมืองไทย ไปแคมป์ปิ้ง และเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะงานออแกไนซ์มันเหนื่อย ยิ่งทำในกรุงเทพก็มีปัญหารถติด บางทีก็ต้องรีบไป

เติ้ล เสริมขึ้นว่า ทำออแกไนซ์ได้ประมาณ 3 ปี ต้องทำทุกวันและเป็นฟรีแลนซ์ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เงิน เราก็คิดว่าถ้าแก่ตัวไปทำไม่ได้แล้วจะหาเงินมาจากไหน พ่อแม่ก็เริ่มแก่เฒ่า อยากมาอยู่ใกล้ๆ และคิดว่าที่บ้านน่าจะมีอะไรให้ทำ ก็กลับมาอยู่บ้าน และได้ค้นพบสิ่งที่เรียกว่า “ความสุข”

ช่วงแรกๆก็ทำแบรนด์ทุเรียนขาย ทุเรียนภูเขาไฟ เพราะทุเรียนดัง แต่ขายได้แค่ 2 เดือนต่อปี ช่วงที่ทุเรียนออก ที่เหลือก็ว่าง พอมาอยู่ที่บ้านก็พบว่า ช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวมาผามออีแดงจำนวนมากตั้งแต่พ.ย.-ต้นม.ค. มาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่เรียกกันว่า “ชมตะวัน 3 แผ่นดิน” คือพระอาทิตย์ส่องผ่านประเทศลาว กัมพูชาและมาไทย

ช่วงนั้นรถจะติดยาวมาก ส่วนช่วงหน้าฝนคนจะมาดูทะเลหมอก อีสานใต้มีที่เดียวที่มีทะเลหมอก สวยมาก มิ.ย.-ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงทุเรียนออก นักท่องเที่ยวก็จะมาหาซื้อทุเรียน และมาเที่ยวผามออีแดงด้วยไปในตัว

ฝายน้ำ เล่าต่อว่า พอเห็นว่าคนมาท่องเที่ยวเยอะ จึงเริ่มเอาพวงมาลัยมาขายช่วงรถติด เพราะเห็นตามสี่แยกไฟแดงในกรุงเทพทำกันบ่อย ไม่ใช่!!

เริ่มจากตั้งโต๊ะเล็กๆหน้าบ้านริมถนนทางขึ้นผามออีแดง ขายข้าวเหนียว หมูปิ้ง กาแฟ มาม่าก่อน เพราะคิดว่า รถติดคนจะหิวอยากหาอะไรกิน

และก็เริ่มมีคนถามว่า แถวนี้มีที่พักไหม ไม่อยากออกจากบ้านจากตัวเมืองศรีสะเกษ จากอุบลราชธานีตีสองตีสามมารอชมตะวัน 3 แผ่นดิน จากคำถามนั้นก็เลยเกิดไอเดีย

ปีแรกตั้งเป็นร้านหมูกระทะและลานกางเต็นท์ก่อน และมีเต็นท์ให้เช่า ลองเปิดดูประมาณ 10 วัน ช่วงปีใหม่ที่มีคนเยอะๆ รู้สึกว่ามันก็ขายได้นี่หว่า และจากการขายทุเรียน ก็ได้เงินมาก้อนหนึ่ง

สุดท้ายก็ตัดสินใจเปิดเป็นที่พักและร้านกาแฟ “ปิติ ฟาร์ม” (Piti Farm) ที่มาของปิติ คือ พ่อแม่น้องฝายน้ำมีลูก 3 คน และในชื่อมีคำว่าปิติรวมอยู่ในนั้นทุกคน จึงเอาชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อร้าน

อ้าวแล้วเติ้ลก็ไม่มีส่วนร่วมอยู่ในชื่อน่ะซิแบบนี้(ความร้าวฉานคืองานของเรา)

ไม่เป็นไรครับ ชื่อนี้ดีแล้วครับ ในนั้นก็มีผมอยู่นะครับ เพราะผมรัก“วันปิติ” ต๊ายตาย!!! กาแฟร้านนี้คงไม่ต้องใส่น้ำตาลแล้วมั๊ง อิจ…แรงบอกเลย

พื้นที่ทั้งหมดมี 16 ไร่ ทำร้านอาหารและที่พัก 3 ไร่ ที่เหลือเป็นสวนผลไม้ของคุณพ่อ ปลูกคละกันไปหมด พอออกผลก็เอามาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ด้วย

ตอนนี้ที่พักมี 13 หลัง เป็นบ้านหลังเล็ก 8 หลัง และเต็นท์ 5 หลัง รับคนได้ประมาณ 50 คน เริ่มจากเต็นท์ 5 เต็นท์ก่อน เพราะไม่รู้ตลาดจะเป็นอย่างไรในช่วงแรก

ช่วงแรกได้โปรโมตลงในเพจ และเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วย ปรากฎว่ายอดคนแชร์ออกมา 4,000-5,000 คน คนจองเข้ามาวันแรกเตียงยังมาไม่ถึงเลย ลูกค้าบอกไม่เป็นไรจองไว้ก่อน ตอนเย็นมาค่อยจัดอีกที

ตอนเปิดร้านเป็นช่วงโควิดปีแรก แต่ก็คิดว่า ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ลองซักที จึงเริ่มเลย ปรากฎว่าดังมาก เพราะช่วงโควิด คนไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ เลยเที่ยวในประเทศนี่แหละ ปรากฎว่าบูมมากเลย ต้องขยายห้องน้ำ โต๊ะ เก้าอี้เพิ่ม แต่ก็ไม่พอ บางคนก็นั่งกินใต้โต๊ะ (โห…ลำบากแท้) เอ๊ย! ใต้ต้นไม้ หนูพูดผิดไป ตอนนั้นเราตกใจ ตั้งตัวไม่ทันด้วย คนมาเยอะมาก

การบริหารจัดการก็มีอุปสรรคบ้าง พวกข้าราชการตำแหน่งสูงบางทีเมาก็ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน เราก็ต้องไปเตือน พอไปเตือน ก็ขู่จะปิดร้านเราอีกต่างหาก ทั้งที่มีระเบียบกฎเกณฑ์แจ้งไว้แล้วว่าต้องปฏิบัติอย่างไรบ้างในการเข้าพัก

เออ…แล้วมีคู่ไหนมาพบรักกันที่นี่บ้างไหม ? คำถามนี้ หวังเป็นช่องทางให้ตัวเองล้วนๆ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่เป็นสื่อมวลชนแล้วมีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง เผื่อมาพักแล้วจะได้หมอนข้างกลับไปนอนกอดที่บ้านบ้าง

ไม่รู้เลยค่ะ อาจจะมีแต่เขาคงไม่มาบอกเรา แต่ที่เห็นคือ ผู้ชายพาผู้หญิงคนอื่นมา แล้วภรรยามาตาม ฝ่ายผู้หญิงที่ผู้ชายพามาบอกว่า พี่ช่วยหนูด้วย เราจะช่วยยังไงดี โทรแจ้งตำรวจดีกว่า บางทีก็ผู้หญิงพาผู้ชายมา แล้วผู้ชายอีกคนมาตาม ฝ่ายหนึ่งเป็นตำรวจ อีกฝ่ายเป็นทหาร มีปืนทั้งคู่ แล้วจะให้เราไปเคลียร์

เติ้ล บอกว่า ช่วงนั้นอาจเป็นเพราะยังไม่มีใครทำแบบนี้ เลยเป็นที่นิยม คนมาเยอะ แต่พอประกาศปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเพราะโควิดระบาดหนัก ที่ร้านก็เลยต้องปิดไปยาวๆประมาณ 7 เดือน เงียบเลยทีนี้

และเมื่อเปิดประเทศคนไทยก็ไปเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้น ลูกค้าก็จะน้อยลง ตั้งแต่ปีที่แล้วรู้สึกว่าค่อยๆเงียบลง นอกจากนี้น่าจะมาจากสภาพเศรษฐกิจด้วย คนจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลง คนมีเงินน้อยลง ประหยัดมากขึ้น เพราะถามเพื่อนๆที่ทำธุรกิจเดียวกัน หรือขายของก็อยู่ในสภาพไม่แตกต่างกัน ขายของได้น้อยลง

เติ้ลบอกว่า ถ้าจุดผ่อนปรน ตรงผามออีแดงเปิดให้ขึ้นไปเขาพระวิหารได้ เศรษฐกิจในพื้นที่ ในตัวจังหวัด ในอำเภอน่าจะดีขึ้น เพราะโซนนี้ไม่มีแลนด์มาร์คอะไรที่โดดเด่นมาก ถ้าเปิดให้ขึ้นเขาพระวิหารเศรษฐกิจในพื้นที่น่าจะดีทั้งร้านขายของที่ระลึก ขายอาหาร คนมาขายก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ตอนนี้ร้านค้าก็น้อยเพราะขายไม่ค่อยได้ คนมาน้อย

หากใครสนในเข้าไปเยี่ยมชม และจองที่พัก ผ่านเพจ เฟซบุ๊ก ปิติฟาร์มมิลี่ Cafe & Glamping – ผามออีแดงโทร. 088 999 3895 การทำเพจ ทำแผ่นพับโปรโมตก็ได้ความชำนาญมาจากการเป็นออแกไนซ์ การประชาสัมพันธ์เลยทำไม่ยาก เติ้ลจบนิเทศน์ ฝายน้ำจบ มนุษยศาสตร์ภาษาอังกฤษ ลูกค้าร้อยละ 90 มาจากโซเชียล ขาจรส่วนใหญ่จะหาที่พักในเมือง

ก่อนจากกัน ทิ้งคำถามชิลๆไปว่า มีแผนจะเพิ่มประชากรให้ประเทศบ้างไหม

ทั้งคู่มองหน้ากัน แล้วบอกว่า “ก็รอดูอยู่ว่าจุดผ่อนปรนขึ้นเขาพระวิหารฝั่งไทยจะเปิดไหม ถ้าเปิดได้ กิจการไปได้ดีกว่านี้ ก็จะมีเจ้าตัวเล็ก”