“ไทยโอซูก้า” ผู้ผลิตอาหารทางการแพทย์และยาปราศจากเชื้อรายใหญ่จากญี่ปุ่น เปิดโรงงานแห่งใหม่ที่สมุทรสาคร เพื่อขยายกำลังการผลิตอาหารทางการแพทย์ ด้วยเงินลงทุนกว่า 550 ล้านบาท และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ โดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาคอาเซียน และส่งออกไปยังหลายประเทศในเอเชีย เสริมยุทธศาสตร์เมดิคัลฮับของไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดโรงงานผลิตอาหารทางการแพทย์แห่งใหม่ของบริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด ที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยโรงงานแห่งนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เพื่อขยายกำลังการผลิตอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต ผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และผู้ป่วยที่ต้องการโปรตีนและพลังงานสูง รองรับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ลงทุนเพิ่มเติม558 ล้านบาท
เงินลงทุนเพิ่มเติมสำหรับโครงการนี้จำนวน 558 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศเพิ่มปีละประมาณ 400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 97 ของวัตถุดิบทั้งสิ้น
บริษัท ไทยโอซูก้า เข้ามาลงทุนในไทย51 ปีแล้ว
บริษัทไทยโอซูก้า เป็นบริษัทในเครือของ Otsuka Pharmaceutical ผู้ผลิตยารายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2516 หรือเมื่อ 51 ปีที่แล้ว โดยได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น เริ่มจากการผลิตน้ำเกลือ และได้ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในกลุ่มอาหารทางการแพทย์ ยาปราศจากเชื้อ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งหน่วยวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยหลายแห่ง เพื่อพัฒนาสูตรอาหารทางการแพทย์ให้เหมาะสมและตอบรับกับร่างกายผู้ป่วยมากที่สุด
ไทยโอซูก้าได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอรวม3,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาบริษัทไทยโอซูก้า ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอรวม 4 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีการจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 900 คน โดยถือเป็นโรงงานผลิตอาหารทางการแพทย์ชั้นนำรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย อีกทั้งเป็นฐานการผลิตอาหารทางการแพทย์แห่งเดียวของกลุ่มบริษัทโอซูก้าในภูมิภาคอาเซียน ที่ใช้ผลิตและจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เอเชียใต้ และแอฟริกา
“กลุ่มโอซูก้า ได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนแห่งแรกในต่างประเทศ และได้ขยายกิจการในไทยอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ทศวรรษ แสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะ Medical Hub ของภูมิภาค ที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำ บริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน และบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นที่เชื่อถือในระดับโลก การเปิดโรงงานแห่งใหม่ของไทยโอซูก้าในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพสูงและเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ” นายนฤตม์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บีโอไอ เผย SUBCON Thailand ภาคตะวันออก สร้างมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนกว่า 2,800 ล้านบาท